- ยอดใช้จ่ายกระเป๋า 2 เพิ่มขึ้น 10 เท่า ใน 1 เดือน
- โวมียอดใช้จ่ายถึง 353 ล้านบาทต่อวัน
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ว่า ภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชนตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.- 28 พ.ย. 2562 ปัจจุบันมีผู้ใช้สิทธิ์รวม 3 เฟส จำนวน 11 ล้านราย มีการใช้จ่ายรวม 16,535 ล้านบาท โดยจากการวิเคราะห์พบว่า การใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเฟส 1 และเฟส 2 มีการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงิน ช่อง 1 ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ที่รัฐบาลสนับสนุนเงินจำนวน 1,000 บาท ที่เป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา การใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงิน ช่อง 2 ซึ่งมีการคืนเงินให้ 15% หากใช้จ่ายถึง30, 000 บาท และคืนเงินสูงสุดถึง 20% หากใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000ขึ้นไป จนถึง50,000 บาท โดยจะคืนเงินให้สูงสุดไม่เกิน 8,500 บาทของยอดการใช้จ่าย มีการขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
โดยล่าสุดการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง 2 เพิ่มสูงขึ้นถึง 353 ล้านบาทต่อวัน โดยมีกลุ่มผู้ใช้สิทธิ์มากกว่า 21,000 คนต่อวัน ซึ่งแนวโน้มการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง 2 สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันยอดการใช้จ่ายรวมในกระเป๋าเงินช่องที่ 2 มีประมาณ 4,928 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงปลายเดือนต.ค. 2562 ที่ยอดใช้จ่ายประมาณ 400 ล้านบาท
“นอกจากนี้ปัจจุบันค่าเฉลี่ยยอดการใช้จ่ายต่อรายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ประมาณ 23,109 บาท อีกทั้ง สัดส่วนการใช้จ่ายผ่านกระเป๋่าเงิน ช่องที่ 2 เมื่อเทียบกับช่อง 1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของการใช้จ่ายรวม สะท้อนความนิยมของประชาชนต่อมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ที่เพิ่มขึ้นบวกอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 3 นี้ ยังคงเปิดรับการลงทะเบียนของกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันยังเหลือสิทธิ์ให้ผู้สูงอายุลงทะเบียนกว่า 200,000 สิทธิ์ ดังนั้นผู้สูงอายุทุกคนที่สนใจเข้าร่วมมาตรการสามารถทยอยเข้าร่วมได้ตามความสะดวก ขณะที่ในส่วนของการใช้จ่ายภายใต้มาตรการ ประชาชนทุกคนที่เข้าร่วมโครงการยังสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องถึงวันที่ 31 ม.ค.2563
