

- ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
- หลายหน่วยงานใช้วิธีเดียวกัน
- เผยวิธีป้องกันตนเองของนักเดินทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่าการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ แต่ยังไม่มีประกาศจำกัดการเดินทาง
เช่นเดียวกับประเทศไทย ไม่ได้ประกาศห้ามเดินทาง แต่ทหลายหน่วยงาน ได้ประกาศให้พนักงานได้รับทราบว่า หากเดินทางไปต่างประเทศกลุ่มเสี่ยง แล้วเดินกลับประเทศไทย ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจไว้ไข้ และหาเชื้อโรคในระยะฟัก พร้อมขอใบรับรองแพทย์ ยื่นให้ผู้บังคับบัญชา หากเข้าข่ายส่งสัย ให้หยุดพัก 14 วัน และบางหน่วยงานประกาศห้ามเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้
ล่าสุดกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้นักเรียน ครู และบุคลลากร ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง อาทิ จีน มาเก๊า ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ งดมาโรงเรียน 14 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรันโควิด -19 ในโรงรียน
สำหรับที่นักเดินทางไปต่างประเทศ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
1 แนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ หรือประเทศที่พบการระบาดของโรค 2.ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม สวมใส่หน้ากากอนามัย 3.หลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น 4.เลือกรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก ทั้งเนื้อสัตว์ ไข่ และผัก 5.หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
6.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ 7.รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 8. หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย แล้วล้างมือ และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
- หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ขอบคุณข้อมูล ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ขอบตุณภาพ จากเว็บไซต์ กระทรวงศึกษาธิการ