ครั้งแรกในไทย! จุฬาฯ วิจัยสุนัขดมกลิ่นตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 หกตัวแรกของประเทศ



  • พิสูจน์ผลแม่นยำถึง 95%
  • ตรวจคัดกรองได้ถึง 1,000 คน

วันที่ 17 มิ.ย.2564 ที่อาคาร 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการเปิดโครงการ โครงการวิจัย “การใช้สุนัขดมกลิ่นตรวจหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ” พร้อมนำสุนัขลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ 6 ตัว ที่ดมกลิ่นผู้ติดเชื้อโควิด และชมอุปกรณ์ต่างๆ บนรถ “ดมไว” ที่เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่สำหรับสุนัขเพื่อใช้ปฏิบัติงานเชิงรุก

ศ.สพ.ญ.ดร.เกวลี ฉัตรดรงค์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม คณะสัตวแพทยศาสตร์ กล่าวว่า จากการวิจัยโดยใช้สุนัขดมไวเพื่อติดตามคัดกรองผู้ที่ป่วยโควิด-19 มีข้อดีคือ ให้ผลฉับไว ผู้ป่วยเก็บสารคัดหลั่งเองได้ และใช้ได้ทีละมากๆ โดยผู้ที่ทำการตรวจไม่ต้องเจ็บตัว จากการทดลอง มีการทดสอบมาแล้ว 7 เดือน ที่บริษัท เชฟรอนประเทศไทย ในพื้นที่ จ.สงขลา มีผู้ทดลองมาแล้วกว่า 500 ราย และเมื่อมีการแพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพฯ กลุ่มสุนัขเหล่านี้ก็มาทำหน้าที่คัดกรองในพื้นที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหากลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นการคัดกรองตามกระบวนการทางเลือก

โดยมีการฝึกสุนัขและวิจัยมาตั้งแต่เดือน กันยายน 2563 ซึ่งพบว่า มีความแม่นยำกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทีมวิจัยจึงมีการทำ “รถดมไว” ที่จะเป็นรถเคลื่อนที่ สามารถเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงได้ และเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับสุนัข เพื่อไม่ให้เป็นพาหะนำโรค โดยภายในรถจะใช้สุนัขตรวจครั้งละ 2-3 ตัว และมีการผลัดเวรกัน ซึ่ง 1 วัน สามรถตรวจคัดกรองได้ 100 -1,000 คน อนาคตโครงการ เตรียมที่จะขยายไปยังสุนัขตำรวจ และสุนัขทหาร ที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่สำคัญต่างๆ เพื่อให้แนวทางการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีความปลอดภัยมากขึ้นซึ่งในต่างประเทศบางชาติก็มีการฝึกสุนัขเพื่อนำมาคัดกรองเช่นกัน

นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุม
โรค กล่าวว่า รถดมไว และสุนัขดมกลิ่นตอนนี้เตรียมแผนจะทำงานร่วมกัน ใน
การคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งจะใช้ในการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงต่ำ ซึ่งถ้าคน
ไหนผ่านการตรวจแล้วพบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง จะต้องทำการคัดกรองทางการ
แพทย์ต่อไป โดยคาดว่า การใช้สุนัขดมกลิ่นจะช่วยให้เกิดการคัดกรองที่เร็วขึ้นและเตรียมที่จะขยายโครงการนี้ไปทั่วประเทศ