ครม.ไฟเขียว! ปรับเงื่อนไขจ่ายเงินอุดหนุนโครงการรักษาระดับการจ้างงาน “เอสเอ็มอี”

  • กำหนดให้ครอบคลุมผู้ประกอบการมากขึ้น
  • พร้อมขยายระยะเวลาดำเนินงานหลายโครงการภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ เพิ่มเติม
  • พร้อมขยายเวลาดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาชีวิต
  • ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” เดิมสิ้นสุด ธ.ค.64 เป็น มี.ค.65

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11 ม.ค. 2565 ได้เห็นชอบให้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานปรับปรุงเงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุนตามโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี สำหรับเดือน ธ.ค.2564-ม.ค.2565 ภายใต้เงื่อนไขการลงทะเบียนและนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ e-Service) 

ทั้งนี้จากเดิมที่กำหนดว่า นายจ้างที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม(สปส.) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยให้มีในผลงวดสมทบให้ สปส. เดือนพ.ย. 2564 เป็นต้นไป (นำส่งข้อมูลการส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 ธ.ค. 2564) โดยปรับปรุงเงื่อนไขเป็น1.นายจ้างที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นผู้มีประวัติเคยนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของ สปส. ก่อนวันที่ 16 ธ.ค. 2564  และ 2.นายจ้างที่นำส่งข้อมูลเงินสมทบหลังวันที่ 15 ธ.ค. 64 ต้องนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบe-Service ภายในวันที่ 17 ม.ค. 2565 

ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มนายจ้างเป้าหมายของโครงการฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19  ได้รับความช่วยเหลือตามโครงการฯ ได้มากขึ้น พร้อมกันนี้ ครม. ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางานเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จในกรอบระยะเวลาที่กำหนดต่อไป   

น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ ครม.ได้อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยขยายระยะเวลาดำเนินการจาเดิมสิ้นสุดเดือนธ.ค. 2564 เป็น สิ้นสุดมี.ค. 2565 เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่ได้รับเงินตามโครงการ   

ในการนี้ ครม. ยังได้เห็นชอบการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการของหลายโครงการที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. ให้ใช้จ่ายงบประมาณจากพ.ร.ก.เงินกู้ฯเพิ่มเติม ได้แก่ อนุมัติให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขยายเวลาดำเนินโครงการภายใต้แผนการเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 สำหรับประชาชนคนไทย จากเดิมสิ้นสุด ธ.ค. 2564 เป็น พ.ค. 2565 ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาระบบสื่อสารสั่งการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับกระทรวงและระดับเขตสุขภาพเป็น SmartEOC และโครงการพัฒนาศักยภาพระบบบริการสุขภาพรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากเดิมสิ้นสุด ธ.ค. 2564 เป็น มี.ค. 2565   

รวมถึงให้กรมพัฒนาชุมชน ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”  จากเดิมสิ้นสุด ธ.ค. 2564 เป็น มี.ค. 2565 พร้อมกับปรับลดกิจกรรมย่อยรวม 3 กิจกรรม และลดวงเงินดำเนินการลงรวม 25 ล้านบาท ทำให้วงเงินดำเนินการตามโครงการอยู่ที่ 4,762.91 ล้านบาทจากเดิม 4,787.91 ล้านบาท