ครม.ไฟเขียวเพิ่มสิทธิประโยชน์พนักงานลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ

  • คุ้มครองกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
  • นำกำไรหมุนเวียนส่งคืนคลัง 3,112ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ โดยยกเลิกร่างประกาศเดิม 1 ฉบับ พร้อมใช้หลักเกณฑ์ใหม่ 2 ฉบับ รวมเป็น 3 ฉบับได้แก่ 1.ร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เรื่อง ยกเลิกประกาศคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาล กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ค่าช่วยเหลือบุตร และค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตร

2.ร่างประกาศฯ เรื่องหลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ค่าทำศพกรณีตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน และ 3.ร่างประกาศฯเรื่องหลักเกณฑ์การจ่ายค่าช่วยเหลือบุตรและค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตร

สำหรับร่างประกาศทั้ง 3 ฉบับจะส่งผลให้พนักงานรัฐวิสาหกิจรวม 306,887 คน ได้รับการคุ้มครองในเรื่องของการดำเนินการกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต เพื่อรองรับการจ่ายเงินคืนแก่สถานพยาบาลได้โดยเร็ว โดยระหว่างปี 2559-2563 มีพนักงานรัฐวิสาหกิจใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตรวม 1,119 คน คิดเป็นเงินค่ารักษาพยาบาลที่ค้างจ่ายต่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)และโรงพยาบาลเอกชน 32,966,400 บาท

ขณะเดียวกันลูกจ้างยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นจากเดิม เช่น เพิ่มสิทธิในการได้รับค่าใช้จ่ายเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค และค่าใช้จ่ายเพื่อการตรวจสุขภาพ และปรับอัตราสิทธิในการได้รับค่ารักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนประเภทผู้ป่วยในให้สูงขึ้น รวมทั้งกำหนดให้ลูกจ้างสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลโดยใช้ระบบการเบิกจ่ายตรงได้ด้วย และได้ปรับอัตราจ่ายค่าทำศพจากประกาศเดิมให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ด้านเศรษฐกิจในปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังได้ปรับอัตราเงินช่วยเหลือบุตรจากเดือนละ 50 บาท เป็นเดือนละ 200 บาท และเพิ่มสิทธิการเบิกค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตรให้รวมถึงการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้วย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.อนุมัตินำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียน 3,112.85 ล้านบาท จาก 14 ทุนหมุนเวียนในปีบัญชี 2562 และปีบัญชี 2563 เพื่อ ส่งคืนคลังเป็นรายได้แผ่นดิน อย่างไรก็ตาม มีบางกองทุนที่ขอไม่นำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินส่งคืนคลัง เช่น กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กองทุนสิ่งแวดล้อมและ เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู