

- กพยช.เผยช่วงปี62-64มีจำนวนคดีที่แจ้งความ1,923,542คดี
- มีจำนวนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในช่วง3ปีดังกล่าวรวม1,883,193คน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (11 เม.ย.66) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้รับทราบถึงสถานการณ์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ตลอดจนการพัฒนาด้านการบริหารงานกระบวนการยุติธรรมในระยะที่ผ่านมา ตามรายงานประจำปีงบประมาณ 2565 ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.)
ทั้งนี้ กพยช. รายงานว่าในช่วงปี 2562 – 2564 ภาพรวมกระบวนการยุติธรรมไทยมีจำนวนคดีที่แจ้งความ1,923,542 คดี จำนวนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ในช่วง 3 ปีดังกล่าว รวม 1,883,193 คน มีคดีอาญาเข้าสู่การพิจารณา1,642,011 คดี และคดีเสร็จไปของศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักร 1,490,814 คดี ส่วนคดีด้านปกครองนั้น มีสถิติคดีเข้าสู่ศาลปกครองชั้นต้นรวม 24,180 คดี และคดีแล้วเสร็จ 20,159 คดี
สำหรับจำนวนผู้ที่อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ทั่วประเทศ แบ่งเป็นนักโทษเด็ดขาด 814,905 คน ผู้ต้องขัง (อยู่ระหว่างการอุทธรณ์–ฎีกา–ไต่สวน–พิจารณาและสอบสวน) 166,899 คน และพบว่ามีผู้กระทำผิดซ้ำหลังจากได้รับการปล่อยตัวในปีแรก 92,288 คน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ครม. ยังได้รับทราบถึงผลการดำเนินงานของ กพยช. และคณะอนุกรรมการภายใต้ กพยช. 6 คณะที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนางานบริหารกระบวนการยุติธรรมของประเทศ อาทิ การจัดทำร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ประวัติอาชญากรรม พ.ศ. …. เพื่อแก้ไขปัญหาที่ทำให้ผู้พ้นโทษไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติสุข โดยเฉพาะการไม่สามารถเข้าถึงแหล่งงานหรือสถานประกอบการที่ตรงกับความสามารถหลังการพ้นโทษแล้ว การจัดทำร่าง พ.ร.บ.ชะลอการฟ้อง พ.ศ. …. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาได้แสดงความรับผิดชอบในการกระทำ ชดเชยเยียยาผลร้ายแห่งการกระทำแก่ผู้เสียหายในชั้นแรก และเปิดโอกาสให้รับฟังความเห็นจากผู้เสียหายอันนำไปสู่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างคู่กรณี ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ สำหรับการจัดทำกรอบการวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรม พ.ศ.2566 – 69 ประกอบด้วย 5 กรอบ ได้แก่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา, ทางแพ่ง ปกครอง, เพื่อพัฒนากฎหมาย, เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในกระบวนการยุติธรรม และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการยุติธรรม
ทางด้านสำนักงานกิจการยุติธรรม (สกธ.) ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการของ กพยช. ก็ได้ดำเนินการที่่ส่งผลสำคัญต่อกระบวนการยุติธรรม อาทิ การจัดทำสถานการณ์อาชญากรรมและกระบวนการยุติธรรมประจำปี พัฒนาระบบการใช้มาตรการต่อผู้กระทำผิดอาญาแทนการควบคุมตัว การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานยุติธรรม การขับเคลื่อนงานในมิติเชิงพื้นที่ เป็นต้น