ขานรับจีน-สหรัฐฯจ่อลงนามข้อตกลงเฟสแรกก่อนกำหนดดาวโจนส์ปิด ตลาดบวกกว่า 132 จุด

  • นักลงทุนซื้อหุ้นตามผลประกอบการหุ้นไตรมาส 3 ออกมาดี
  • ดันดัชนีตลาดหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่สถิติสูงสุดใหม่
  • ตลาดคาดเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุมที่จะเริ่มต้นคืนนี้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมาที่ระดับ 27,090.72 จุด เพิ่มขึ้น 132.66 จุด หรือ +0.49% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,039.42 จุด เพิ่มขึ้น 16.87 จุด หรือ +0.56% โดยขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดใหม่ ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท ปิดที่ 8,325.99 จุด เพิ่มขึ้น 82.87 จุด หรือ +1.01%

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปพุ่งขึ้นขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นเอทีแอนด์ที พุ่งขึ้น 4.4% หุ้น หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดีดขึ้น 1.4% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 1.1%% หุ้นบรอดคอม เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นอินเทล บวก 0.5%
หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน ก่อนการประชุมเอเปคซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศชิลีในวันที่ 16-17 พ.ย เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมที่เขาและนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในการประชุมดังกล่าว ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า สหรัฐและจีนใกล้จะได้ข้อสรุปที่อาจนำไปสู่การลงนามในข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้า

หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปพุ่งขึ้นขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นเอทีแอนด์ที พุ่งขึ้น 4.4% หุ้น หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดีดขึ้น 1.4% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 1.1%% หุ้นบรอดคอม เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นอินเทล บวก 0.5%

ขณะที่หุ้นตัวอื่ยๆ นักลงทุนยังเลือกซื้อตามข่าว โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.4% ขานรับข่าวไมโครซอฟท์ชนะการประมูลสัญญาให้บริการระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์แก่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ โดยสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างอเมซอนดอทคอม

หุ้นทิฟฟานี่ ทะยานขึ้น 31.6% หลังจากบริษัทแอลวีเอ็มเอช เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง หลุยส์ วิตตอง และจีวองชี่ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ทางบริษัทได้เสนอซื้อกิจการบริษัท ทิฟฟานี่ แอนด์ โค ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับชั้นนำของสหรัฐ ในวงเงิน 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้น Spotify Technology ซึ่งเป็นธุรกิจให้บริการมิวสิคสตรีมมิ่งที่มีสมาชิกมากที่สุดในโลก ปิดตลาดพุ่งขึ้น 16% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.73 พันล้านยูโร สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.72 พันล้านยูโร ขณะที่จำนวนสมาชิกในระดับ Premium หรือสมาชิกที่มีการจ่ายค่าบริการ เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 113 ล้านคน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 112.9 ล้านคน

หุ้นวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่ระดับ 1.43 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4 ตามปีงบการเงินของบริษัท ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.41 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30 ต.ค. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 94.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%

ขณะที่การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) มีความยืดหยุ่นมากขึ้น หลังโฆษกของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า นายจอห์นสันจะตอบกลับข้อเสนอของสหภาพยุโรป (EU) ในการขยายกำหนดเส้นตายของ Brexit ออกไปอีก 3 เดือน เป็นวันที่ 31 ม.ค.2563