“ขนส่งทางบก” คุมเข้มป้องโควิดในรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศ

  • ลุยคัดกรองผู้โดยสารก่อนเดินทาง
  • เข้มเว้นระยะนั่ง-ยืนตามมาตรการ Social distancing

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินมาตรการเข้มงวดป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในระบบขนส่งสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ขนส่งทางบกจึงได้กำชับไปยังผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ให้บริการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท รวมถึงผู้ให้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด 

ล่าสุดเมื่อวันที่29พฤษภาคม2563ที่ผ่านมาทางสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศเช่นอุทัยธานีตากมุกดาหารสมุทรปราการนครพนมนครสวรรค์บุรีรัมย์ชัยภูมิบึงกาฬนครศรีธรรมราชเชียงใหม่อุตรดิตถ์นราธิวาสกาฬสินธุ์ศรีสะเกษนครราชสีมานครปฐมปราจีนบุรีจันทบุรีเชียงรายอุบลราชธานีลำปางแพร่หนองบัวลำภูอำนาจเจริญชลบุรีชัยนาทนนทบุรีระนองมหาสารคามสงขลาบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองตำรวจทหารเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภททั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่รับผิดชอบกำชับมาตรการSocial distancingเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย1เมตรทั้งภายในรถโดยสารและที่นั่งคอยภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารไม่ให้เกิน37.5องศาเซลเซียสควบคุมการใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดและจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือผู้โดยสารเดินทางข้ามจังหวัดต้องลงทะเบียนการเดินทางในระบบบันทึกข้อมูลผู้โดยสารแบบ.8คคที่web.dlt.go.th/t8/

ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคติดต่อ ทั้งนี้ หากพบรถโดยสารสาธารณะไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือฉวยโอกาสเอาเปรียบระชาชน  สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1584

ด้านสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1  จัดทำโครงการ “ถุงปันสุข” ปันน้ำใจสู้ภัยโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะและผู้ประจำรถ รถโดยสารสาธารณะหมวด 4 ในเขตกรุงเทพมหานคร ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 โดยแจกให้กับผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะเขตยานนาวา วินไผ่ทอง วินสองร้อยห้อง วินสมนึกสุกศรีการ วินใต้สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม วินหน้าศูนย์บุญมี และผู้ประจำรถโดยสารประจำทางหมวด 4 สาย 1261 ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ถนนจันทร์  

ในขณะที่ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่  3  ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมอบสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวนทั้งสิ้น63 ชุด ในเขตบางนา ได้แก่ วินอุดมสุข 5, นิรันดร์แกรนด์เชลียง 1, 103 บริการอุดมสุข 22-24, บ้าน  อุดมสุขบริการปากซอย 105, พณิชยการบางนา และ อุดมสุข 68 

สำหรับการให้บริการประชาชนที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศซึ่งได้มีการประกาศงดการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถแล้วจนกว่าจะมีประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศเป็นอย่างอื่นหลังจากนี้แต่ยังคงให้บริการด้านทะเบียนและภาษีตามปกติจึงได้กำชับให้มีมาตรการป้องกันทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดังนี้คือให้ตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าไปในสถานที่และการบริการสาธารณะหากพบประชาชนที่มีอาการไข้หรืออาการต้องสงสัยเข้าข่ายอาการโรคดังกล่าวให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคพื้นที่ให้บริการภายในสำนักงานขนส่งทุกวันโดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้งเช่นเคาน์เตอร์บริการที่จับประตูที่จับราวบันไดปุ่มกดลิฟต์เป็นต้นและจัดให้มีสบู่ในห้องน้ำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่เคาน์เตอร์ให้บริการและจุดประชาสัมพันธ์

รวมถึงดำเนินการตามมาตรการ Social Distancing จัดที่นั่งพักคอยของประชาชน กำหนดพื้นที่ยืน โดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ ที่https://eservice.dlt.go.th ส่วนรถที่ไม่สามารถใช้บริการชำระภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ แนะนำใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ชำระภาษีได้โดยไม่ต้องลงจากรถ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด 

นอกจากนั้นในส่วนของการต่ออายุใบอนุญาตขับรถทุกชนิดที่ต้องมีการอบรม กรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้อบรมผ่านระบบ e-Learning ที่ www.dlt-elearning.com เพื่อลดขั้นตอนการอบรมที่สำนักงานขนส่ง เมื่อมีประกาศเปิดให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถ

อย่างไรก็ตามทางขนส่งทางบกขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในการติดต่อราชการและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด