“กฤษฎา” เผยคลังไม่ออก พ.ร.ก.เงินกู้พิเศษลุยโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท

“กฤษฎา” รมช.คลังลั่นไม่มีแนวคิดออก พ.ร.ก.เงินกู้พิเศษหนุนโครงการแจกเงินดิจิทัลเผยไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.เงินตราของแบงก์ชาติแน่นอน

วันนี้ (8 ก.ย.66) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง เปิดเผยถึงนโยบายการแจกเงินดิจิทัล (Digital Wallet) คนละ10,000 บาท ว่า เบื้องต้นกระทรวงการคลังจะไม่ออก พ.ร.ก.เงินกู้พิเศษ เพื่อมาดำเนินโครงการเงินดิจิตอล โดยแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการดังกล่าว จะมาจากหลายแหล่งในงบประมาณ และการยืมเงินจากสถาบันการเงินของรัฐโดยใช้อำนาจตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ปี 2561

“งบประมาณที่จะใช้ในโครงการแจกเงินดิจิตอลของรัฐบาล จะมาจากการประหยัดงบประมาณในบางโครงการของปีงบประมาณ 2567 รวมถึงการยืมเงินจากสถาบันการเงินของรัฐ” นายกฤษฎา กล่าว

นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า สำหรับกรอบการใช้เงินตามมาตรา 28 ดังกล่าว คณะกรรมการวินัยการเงินการคลังแห่งรัฐ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะเป็นผู้กำหนดว่า ไม่ควรเกินกี่เปอร์เซ็นต์ของ วงเงินงบประมาณรายจ่ายในแต่ละปี ซึ่งปัจจุบันกำหนดไว้ไม่เกิน 32% ของงบประมาณรายจ่าย ซึ่ง ณ มิ.ย.นี้ วงเงินตามกรอบดังกล่าวเกือบจะเต็มแล้ว เหลือวงเงินที่สามารถใช้จ่ายได้เพียง 18,000 ล้านบาทเท่านั้น

นอกจากนี้ ในนปีงบประมาณ 2567 ทางกระทรวงการคลังคาดว่า จะมีวงเงินที่สามารถใช้จ่ายได้ตามกรอบของมาตรา 28 มากกว่าแสนล้านบาท เนื่องจากในปีงบประมาณหน้าจะมีการตั้งงบประมาณในการชดใช้มาตรา 28 ราวๆ แสนล้านบาท อีกทั้งบางโครงการที่จะใช้เงินจากมาตรา 28 อาจไม่มีการดำเนินการต่อไปอีกแล้ว ก็จะมีวงเงินเหลือเพิ่มขึ้นอีก

รวมทั้งในปีหน้านั้น ราคาผลผลิตทางการเกษตรน่าจะดีขึ้น ทำให้รัฐบาลใช้เงินอุดหนุนสินค้าเกษตร ซึ่งก็มาจากมาตรา 28 น้อยลงไปด้วย ก็ยิ่งทำให้มีวงเงินเพิ่มเคิมขึ้นมาอีก บวกกับวงเงินที่ยังเหลืออยู่ในปีนี้อีก 18,000 ล้านบาท ซึ่งต้องมีการเตรียมการได้ให้ดี

อย่างไรก็ตาม สำหรับรูปแบบของเงินดิจิทัลของรัฐบาลนั้น กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการหารือในรายละเอียดให้ชัดเจนซึ่งเดิมเคยคิดจะใช้รูปแบบของ CBDC ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นออฟชั่นหนึ่ง แต่ปัจจุบันอาจมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ขอยืนยันว่า การดำเนินการดิจิทัลมันนี่ของรัฐบาล จะไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.เงินตรา ที่กำกับดูแลโดย ธปท. อย่างแน่นอน

นายกฤษฎา กล่าวด้วยว่า คาดว่าปีนี้ จีดีพีจะโตตามคาดการณ์ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.8% ทั้งนี้ในส่วนโครงการเงินดิจิทัลของรัฐบาลนั่น จะมีผลต่อจีดีพีมากน้อยเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเงินจะสามารถมันหมุนได้กี่รอบ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษา