กรมอนามัย ชี้คนในชุมชนเกือบ 1 ใน 3 ออกนอกบ้านสวมหน้ากากอนามัยใต้คาง-ไม่ปิดจมูก

วันที่ 16 พ.ค.2564 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ ยังพบว่ากลุ่มก้อนของการระบาดส่วนใหญ่เกิดจากชุมชนและครอบครัว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA อย่างเคร่งครัด จากผลการสำรวจอนามัยโพล ระหว่างวันที่ 5 – 12 พฤษภาคม 2564 พบว่าประชาชนมีพฤติกรรมการป้องกันตนเอง ทั้งการสวมหน้ากากทำได้ร้อยละ 96.6 เว้นระยะห่าง ร้อยละ 95.7 ล้างมือเป็นประจำ ร้อยละ 97.8 และเมื่อสอบถามถึงพฤติกรรมของผู้อื่นที่อยู่ในชุมชน ในประเด็นสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้านพบว่า เห็นผู้อื่นเกือบร้อยละ 30 หรือประมาณ 1 ใน 3 สวมหน้ากากกันน้อย และสวมไม่ถูกต้อง โดยสวมไม่ปิดจมูกหรือสวมไว้ใต้คาง นับว่าเป็นความเสี่ยงต่อการรับและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ในชุมชนได้ง่าย

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า วิธีการเลือกหน้ากากอนามัยที่เหมาะสมนั้น ให้พิจารณาด้านนอกและด้านในของหน้ากากให้ชัดเจน ต้องไม่มีกลิ่นผิดปกติ ไม่เปรอะเปื้อนและไม่มีตำหนิ ต้องคลุมจมูกและปาก สายคล้องหูต้องไม่ฉีกขาดและต้องไม่มีส่วนใดหลุดออกจากหน้ากาก แถบปรับกระชับดั้งจมูกต้องยึดแน่นและ ต้องไม่หลุดออกง่ายขณะใช้ ก่อนสวมหน้ากากควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และห้ามใช้หน้ากากร่วมกับคนอื่น ส่วนการสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง ให้นำด้านที่ดูดซับน้ำไว้ด้านใน โดยมีลักษณะพื้นผิวนุ่มกว่าเพื่อดูดซับเหงื่อ น้ำมูก น้ำลาย จากการไอจาม และนำด้านมันที่ไม่ดูดซับน้ำไว้ด้านนอก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นด้านที่มีสีเพื่อป้องกันการซึมซับของเหลวหรือละอองจากภายนอกเข้ามา

“หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วหากเกิดการฉีกขาด ใส่แล้วไม่กระชับ หรือเปื้อนสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือเปียกน้ำ ให้เปลี่ยนใหม่ทันที ส่วนวิธีการกำจัดหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว หากเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลให้ทิ้งลงในถังขยะติดเชื้อที่มีสัญลักษณ์แสดงให้เห็นชัดเจน ส่วนประชาชนทั่วไปให้ทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิด ที่สำคัญต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งทั้งก่อนใส่และหลังทิ้งหน้ากากอนามัยเพื่อสุขอนามัยที่ดี”