กรมชลฯ โชว์ผลงานความคืบหน้ากำจัดผักตบชวาลุ่มน้ำภาคกลาง คาดเสร็จทันก่อนน้ำหลากปีนี้



  • ลั่นงานคืบหน้าไปกว่า 87% ของแผนฯ
  • หวังลดปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำ
  • เผยมีแผนจัดทำทุ่นยางพารา ดักผักตบชวา จำนวน 10,404 ท่อน พร้อมติดตั้ง 612 หน่วย

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมชลประทานได้ดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลาง พื้นที่ดำเนินการประมาณ 4,107 ไร่ ในเขตของสำนักงานชลประทานที่ 3, 4 และ 9-13 ครอบคลุมพื้นที่ภาคกลาง 27 จังหวัด โดยปัจจุบันสามารถกำจัดผักตบชวาและวัชพืชด้วยการใช้เครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ไปแล้วกว่า 554,400 ตัน หรือ 87% ของแผนงานฯ 

ประพิศ จันทร์มา

ทั้งนี้ในส่วนที่ใช้แรงงานคนในการกำจัด มีผลงานคืบหน้าไปกว่า 54% หรือคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 1,110 ไร่ คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดก่อนเข้าสู่ฤดูฝนหน้า

สำหรับแนวทางการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชขวางทางน้ำนั้น กรมชลประทานได้ติดตั้ง Log boom เพื่อหยุดผักตบชวาและวัชพืชไม่ให้ไหลไปตามแม่น้ำลำคลอง ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บและป้องกันปัญหาผักตบชวาและวัชพืชไหลไปตามแม่น้ำหรือคลองลงไปสู่พื้นที่ด้านท้ายน้ำ 

นายประพิศ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 กรมชลประทาน มีแผนดำเนินการจัดทำทุ่นยางพารา ดักผักตบชวาจำนวน 10,404 ท่อน พร้อมติดตั้ง 612 หน่วย ซึ่งการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช จะใช้ทั้งแรงงานคนและเครื่องจักรกลเครื่องมือต่างๆ อาทิ รถขุดตีนตะขาบ แบบแขนยาว จำนวน 107 คัน เรือขุดแบบปูตัก จำนวน 31 ลำ และเรือกำจัดวัชพืช จำนวน 52 ลำ

ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการจัดเก็บแล้วเสร็จ จะจัดรอบเวรเพื่อทำการจัดเก็บอย่างต่อเนื่อง ด้วยเรือนวัตกรรมกำจัดวัชพืชขนาดเล็ก ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 นี้ กรมชลประทานมีแผนจัดสร้างเรือนวัตกรรมกำจัดวัชพืชขนาดเล็กเพิ่มเติมอีก 100 ลำ สำหรับการใช้งานเพื่อกำจัดวัชพืชและผักตบชวาให้เกิดความต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาวัชพืชและผักตบชวาที่สร้างผลเสียให้กับพื้นที่ทางน้ำชลประทานได้

นอกจากนี้ ยังได้ให้ทุกโครงการชลประทาน จัดทำและติดตั้งป้ายแสดงชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับผิดชอบ ในการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช ไว้ที่อาคารชลประทาน และทางน้ำชลประทาน ที่มีความเสี่ยงต่อการสะสมของผักตบชวาเพื่อให้ประชาชนที่พบเห็นได้ สามารถแจ้งให้หน่วยงานชลประทานในพื้นที่เข้าไปทำการจัดเก็บได้อย่างทันท่วงที หรือสามารถแจ้งผ่านช่องทางสื่อสารสังคมออนไลน์ Page Facebook “เรารักชลประทาน” และสายด่วนกรมชลประทาน1460 ได้ตลอดเวลา