“กรมควบคุมโรค” เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 3 ราย จากเคสหญิงวัย 67 ปี ที่แพปลาสมุทรสาคร พบเป็นคนในครอบครัว



  • เผยขณะนี้เร่งสอบสวนติดตามหาผู้ติดเชื้อเพิ่ม 
  • พร้อมไล่สอบหาต้นตอการแพร่ระบาดในครั้งนี้
  • คาดผู้ติดเชื้อรายนี้ น่าจะติดมาจากผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า
  • ลั่นประชาชน อย่าตื่นตระหนก ยันไม่ใช่การระบาดระลอกที่ 2 แน่นอน

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พบที่แพปลาใน จ.สมุทรสาคร ว่า ผู้ป่วยเป็นเพศหญิง สัญชาติไทยอายุ 67 ปี อาชีพค้าขายเป็นเจ้าของแพปลา อยู่ในตลาดกุ้ง อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร โดยจากการติดตามผู้ใกล้ชิดสัมผัสเสี่ยงสูงมี 7 ราย โดยคนในครอบครัว 5 ราย พบ 3 ราย ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคนในครอบครัว คือ มารดา เป็นผู้ป่วยติดเตียง เพศหญิงอายุ95 ปี พบเชื้อ พี่สาวคนโต อายุ 73 ปีตรวจพบเชื้อ และน้องสะใภ้อายุ 57 ปี ตรวจพบเชื้อ ส่วนอีก 2 รายไม่พบเชื้อ คือน้องชายผู้ป่วยอายุ 57 ปี และแม่บ้าน ซึ่งเดินทางไป-กลับเป็นหญิงอายุ 56 ปี ก็ตรวจไม่พบเชื้อ นอกจากนี้ มีการตรวจอีก 2 คน ซึ่งก็ตรวจไม่พบเชื้อ คือ ลูกชายคนที่ 2 อายุ 31 ปี และเพื่อนลูกชายเป็นหญิงอายุ 25 ปี โดยผู้ที่ไม่พบเชื้อได้ทำการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังต่อไปแล้ว

นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนโรคจะพบว่า ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 67 ปี เริ่มป่วยวันที่ 13 ธ.ค.63 ด้วยอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น วันที่ 16 ธ.ค.63 มารักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ผู้ป่วยกลับไปรอผลที่บ้าน เวลา 22.00 น.ผลพบเชื้อติดตามผู้ป่วยมาแยกกักกันตัว ซึ่งผู้ป่วยให้ข้อมูลว่าไม่เคยไปต่างประเทศ 

นอกจากนี้ ในวันที่ 17 ธ.ค.63 ยืนยันพบเชื้อที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยรายนี้ มีทั้งหมด 26 ราย แบ่งเป็นกลุ่มแรก คือ 7 รายที่เป็นครอบครัวเดียวกัน พบเชื้อ 3 ราย ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นคนทำงานที่แพกุ้งตั้งแต่เวลา 06.00-11.00 น.ทุกวัน มี 3 คน คือ ลูกชายคนที่ 1 อายุ 39 ปี รอผลตรวจอยู่ และกักกันตัวที่โรงพยาบาล ส่วนอีก 2 ราย เป็นลูกจ้างเมียนมา อยู่ระหว่างรอผลตรวจ และกลุ่มที่ 3 เป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน 8 ราย ผลไม่พบเชื้อ และกลุ่มที่ 4 แรงงานในตลาดแพกุ้งอีก 8 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ ขณะที่กลุ่มเสี่ยงต่ำมี 139 ราย เป็นคนสัญชาติไทย 14 ราย และสัญชาติอื่นๆ 125 ราย

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานที่พบผู้ป่วยในตลาดกุ้งครั้งนี้ แบ่งเป็นโซน A รวม 4 ราย คือผู้ป่วยอายุ 67 ปี และผู้ที่ใกล้ชิดอีก 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนโซน B และหอพักมีการติดตามเฝ้าระวังอยู่ ขณะนี้ปิดตลาด 3 วัน เพื่อทำความสะอาด นอกจากนี้จะมีการตรวจหาเชื้อในตลาดใกล้เคียง สิ่งสำคัญคือต้องขอให้มีการสื่อสารเรื่องการย้ำมาตรการป้องกัน ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย 100% หลีกเลี่ยงไปที่ชุมชน และการเดินทางในช่วง 1-2 สัปดาห์ และขอให้มีการสแกนไทยชนะ เช็กอินเช็กเอ้าท์ ซึ่งในพื้นที่ทุกภาคส่วนได้มีการเข้มมาตรการในพื้นที่ตนเอง โดยเฉพาะตลาด ต้องทำความสะอาดทุกตลาด ลดความหนาแน่น เว้นระยะห่าง จัดที่ล้างมือ หรือเจลแอลกอฮออล์ รวมถึงตรวจสอบปริมาณคลอรีน ในน้ำประปาทั้งต้นทาง และปลายท่อให้ได้ตามมาตรฐาน สรุปคือ ขอให้ย้ำมาตรการ “กินร้อนช้อนส่วนตัว ล้างมือ สวมแม้ส สแกนไทยชนะ กินสุก”

“สำหรับสาเหตุของการติดเชื้อครั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค แต่ต้องติดมาจากผู้ป่วยก่อนหน้านี้ หมายความว่า การที่เราพบผู้ป่วยหญิงอายุ 67 ปี อาจไม่ใช่เป็นรายแรกเฉพาะในพื้นที่ที่เจอครั้งนี้ แต่อาจมาจากรายก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ จึงต้องมีการสอบสวนโรค อย่างไรก็ตามอยากย้ำว่า ไม่ต้องกังวลว่า เป็นการระบาดระลอกสอง เนื่องจากนิยามของคำว่าระบาดระลอกสองคือ คนติดเชื้อต่อกันโดยไม่สามารถหาต้นตอได้ แต่กรณีนี้เรายังติดตามหาต้นตอได้อยู่” นพ. โสภณ กล่าว