กรมการค้าภายในเกาะติดราคาน้ำมันใกล้ชิด

  • หลังราคาดีเซลดลงลิตร50สตางค์ เหลือ33บาท
  • หวังต้นทุนขนส่งและผลิตสินค้าลดลงต่อเนื่อง
  • ส่วนปุ๋ยเคมีนับจากนี้มีแต่ราคาลง หลังต้นทุนลด40%

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันที่ 7 เม..66 ราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศปรับลดลงลิตรละ 0.50 บาท มาอยู่ที่ 33 บาท จากเดิม 33.50 บาท ช่วยผ่อนคลายภาระค่าขนส่งให้กับผู้บริโภคได้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งกรมจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดเพราะหากราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง จะมีผลทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตสินค้าไม่ได้มีเฉพาะต้นทุนจากพลังงานเท่านั้น ยังมีต้นทุนวัตถุดิบ และค่าบริหารจัดการอื่นๆ อีก ซึ่งกรมจะติดตามใกล้ชิดเช่นกัน หากต้นทุนผลิตต่างๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ราคาขายสินค้าก็จะต้องลดลงให้สอดคล้องกันด้วย

ส่วนสินค้าอื่นๆ เช่น สินค้าเกษตรสำคัญ ทั้งข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน ราคาปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,600 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ตันละ 13,750 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,150 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,200 บาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 12,400 บาท และมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอีก จากความต้องการซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นมันสำปะหลัง 3.25-3.85 บาทต่อกิโลกรัม (กก.), ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 12.15 บาทต่อกกสูงกว่าปีก่อนที่ 12 บาทต่อกก., ปาล์มน้ำมัน 6.50 บาต่อกกส่วนปศุสัตว์ อย่างหมูเนื้อแดง เฉลี่ย 153 บาทต่อกกราคาขึ้นเล็กน้อย ไก่ทั้งตัวรวมเครื่องใน ทรงตัว 75-85 บาทต่อกกและไข่ไก่ ทรงตัวฟองละ 3.75 บาท

อย่างไรก็ตาม กรมยังมีมาตรการดูแลราคาอาหารสำเร็จ เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชนด้วย ผ่านร้านอาหารธงฟ้าโดยมีร้านอาหารเข้าร่วมเป็นร้านอาหารธงฟ้ากว่า 6,000 แห่ง มีอาหารทางเลือกจานละ 35 บาท แต่ตั้งเป้าหมายขยายร้านอาหารธงฟ้าให้ได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ ส่วนการดำเนินการกับผู้ค้าที่เอาเปรียบผู้บริโภคนั้น ตั้งแต่เดือนม..จนถึงขณะนี้ ได้ดำเนินการกับผู้ค้าไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้าไปแล้ว 177 ราย และหากพบผู้ค้ารายใดเอาเปรียบประชาชนในการขายสินค้าและบริการ จะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน

ด้านนายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ผลผลิตผักสดเข้าสู่ตลาดลดลง จากสภาพอากาศที่ร้อนผลผลิตโตช้า ทำให้ราคาผักบางชนิดสูงขึ้น เช่น ต้นหอม ผักชี พริกขี้หนู ส่วนมะนาว เบอร์ 1-2 ราคาเฉลี่ย 4.95 บาทต่อผล คาดราคาจะทรงตัวไปจนถึงสิ้นเดือนเม..66 จากนั้นเดือนพ..ราคาจะปรับลดลง เพราะผลผลิตจะออกมากขณะที่ผักที่ราคาลดลง เช่น คะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี กวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน ซึ่งในช่วงที่ราคาพืชผักมีราคาสูง หรือมีปริมาณมาก กรมจะใช้แนวทางการเชื่อมโยงตลาด เพื่อให้ปริมาณและราคาที่เกษตรกรขายได้ไม่ต่ำจนเกินไป

ส่วน ..จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้ ราคาปุ๋ยเคมีลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาก๊าซธรรมชาติลดลงเฉลี่ย 40% ทำให้ราคาขายในประเทศลดลง 40% เช่นกัน โดยตั้งแต่วันที่ 10 เม..ไปจนถึงเดือนพ..นี้ ราคาปุ๋ยเคมีในประเทศจะลดลงอย่างต่อเนื่อง หากราคายังไม่ลง อาจมีการฉวยโอกาสขึ้นราคา หากเกษตรกรพบเห็น สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรม โทร. 1569 จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ หากพบผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน