กฟผ. ห่วงใยสุขภาพคนไทย สร้างต้นแบบหอฟอกอากาศ พิชิตฝุ่น PM2.5



  • ชูนวัตกรรมสร้างอากาศบริสุทธิ์เพื่อลมหายใจแห่งอนาคต
  • โชว์ประสิทธิภาพดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กPM 2.5มากกว่า80%
  • ฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในอัตราสูงสุด30,000ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน การพัฒนาต้นแบบหอฟอกอากาศสำหรับชุมชนด้วยเทคนิคพลาสมา เกิดจากการรวมพลังของทีมนักวิจัยและนักประดิษฐ์ กฟผที่ต้องการช่วยบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศของประเทศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ด้วยประสิทธิภาพมากกว่า 80% ในการดักจับอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในอัตราสูงสุด 30,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 250 เมตร  

รวมถึงสามารถนำไปติดตั้งใช้งานในพื้นที่ต่าง  ที่ประสบปัญหาฝุ่น หรือมลพิษทางอากาศ เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้อีกทางหนึ่ง สำหรับหอฟอกอากาศต้นแบบที่ติดตั้งในพื้นที่ กฟผนี้ จะมีการติดตามการใช้งาน เพื่อพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และขยายผลการติดตั้งไปในพื้นที่อื่น  โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือซึ่งมีปริมาณฝุ่นในอากาศเข้มข้น และเกิดปัญหามลพิษทางอากาศต่อเนื่องมาหลายปี

สำหรับนวัตกรรมหอฟอกอากาศนี้ สูง 6 เมตร น้ำหนักประมาณ 6 ตัน ใช้เทคนิคการกำเนิดพลาสมา ที่ใช้ไฟฟ้าแรงสูงเพื่อสร้างความเครียดสนามไฟฟ้า ทำให้อากาศแตกตัวเป็นประจุไฟฟ้า (Pre-charge) จากนั้นจึงปล่อยประจุไฟฟ้าไปเกาะอนุภาคฝุ่น PM2.5 เมื่ออนุภาคฝุ่นที่มีประจุเคลื่อนตัวผ่านห้องดักจับอนุภาค ก็จะถูกกักเก็บได้โดยง่าย องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยชิ้นนี้สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้บริการตรวจวัดประสิทธิภาพการกรองฝุ่นละอองของเครื่องป้องกันและอุปกรณ์ต่าง  เช่น หน้ากากอนามัย และเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน ได้อีกด้วย