กบข.ผนึก32สถาบันระงับลงทุน 3 เดือน

  • บริษัทไหนปั่นหุ้น-ไม่โปร่งใสเตรียมถูกแบน!
  • ใครมีธรรมาภิบาลอยู่แล้วได้รับเงินทุนเพิ่ม
  • ยกระดับสู่การลงทุนอย่างรับผิดชอบ

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า วานนี้(15ส.ค.) กลุ่มนักลงทุนสถาบัน  32 ราย ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 10.8 ล้านล้านบาท  ทั้งจากสำนักงานประกันสังคม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน  และบริษัทประกันชีวิต ร่วมกับกบข.ลงนามแนวปฏิบัติ “การระงับลงทุน” (Negative List Guideline) ภายใน 3 เดือน เพื่อยกระดับการลงทุนของประเทศไทยสู่การลงทุนอย่างรับผิดชอบ

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวว่า แนวทางบริษัทที่มีเกณฑ์จะถูกระงับการลงทุนนั้น มี 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรก การทำผิดกฎหมายพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่รุนแรง ได้แก่ 1.การปกปิดข้อมูลหรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ 2.ซื้อขายหุ้นอย่างไม่เป็นธรรม เช่น ใช้ข้อมูลภายใน ปั่นหุ้น เป็นต้น 3.ผู้บริหารหรือกรรมการทำผิดในเรื่องความไม่โปร่งใสหรือไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง 4.การฉ้อฉลหรือทุจริต และ5.ผู้บริหารหรือบริษัทปิดกั้นไม่ให้ผู้ตรวจสอบบัญชีเข้าไปตรวจสอบบัญชี  

ส่วนประเด็นที่ 2 คือ ปัญหาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งส่งผลกระทบทางลบในวงกว้าง  ซึ่งถ้าหากบริษัทใดมีความผิดข้อนี้จะมีการเข้าไปเจรจาก่อน โดยทางสถาบันต่างๆ จะจัดประชุมร่วมกันว่ามีผลกระทบรุนแรงหรือไม่และจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร เช่น การใช้แรงงานเด็ก เป็นต้น

“ถ้าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ชี้ว่าบริษัทนี้มีปัญหา ในเบื้องต้นสถาบันต่างๆ จะร่วมเข้าไปแก้ไข แต่ถ้าบริษัทนั้นถูกศาลชั้นต้นพิพากษา สถาบันต่างๆ จะหยุดการซื้อหุ้นเพิ่มทันที โดยความผิดทั้งหมดจะไม่นับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตนับแต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ ส่วนบริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดีอยู่แล้ว อาจได้รับเงินลงทุนเพิ่มจากการทุนที่จะมีการตั้งขึ้นมาระหว่าง 32 สถาบัน”

อย่างไรก็ตามเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการลงนามร่วมกันระหว่างสถาบันลงทุน เรื่องการระงับลงทุนนี้ ซึ่งจะยึดให้เป็นเกณฑ์ปฎิบัติในเวลาที่บริษัทใดก็ตามทำผิดกฎหมาย หรือทำผิดเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล ส่วนขั้นตอนไปคือหวังว่าแนวปฎิบัตินี้จะครอบคลุมมากขึ้น เช่น การบังคับใช้เร็วขึ้น เป็นต้น และนักลงทุนสถาบันรายอื่นที่ยังไม่เข้าร่วมจะเข้ามาลงนามมากขึ้น

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนจะต้องดำเนินการอย่างรับผิดชอบ มุ่งรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล และการลงทุนจะต้องไปเป็นตามการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลการลงทุน (I Code) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทุนสถาบันปฎิบัติตามกฎ I Code อยู่ถึง 32 แห่ง มีสินทรัพย์รวม  9.4 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็น 61% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)

สำหรับรายชื่อนักลงทุนสถาบันที่เข้าร่วมลงนามประกอบด้วย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)  สำนักงานประกันสังคม (สปส)  บลจ. กสิกรไทย (KASSET) บลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM) บลจ. กรุงไทย (KTAM) บลจ. เอ็มเอฟซี (MFC) เป็นต้น