กทม.เข้ม ห้ามลงเก็บเหรียญในกระทง ย้ำ ‘จุดพลุ-ปล่อยโคม’ เขตต้องอนุญาตก่อน

  • ฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
  • ปรับไม่เกิน 60,000 บาท

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทงว่า โดยภาพรวม กทม.จัดงานลอยกระทง 3 แห่ง ได้แก่ ใต้สะพานพระราม 8 คลองโอ่งอ่าง และคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งจัดร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลความปลอดภัยทั้งหมด 50 เขตของ กทม.

นายธีรยุทธกล่าวว่า มีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ กองทัพเรือ สนับสนุนกำลังลาดตระเวนแม่น้ำเจ้าพระยา และมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ 2 คน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2 คน ประจำทุกโป๊ะท่าน้ำ ที่มีการเปิดให้ประชาชนเข้าไปลอยกระทง โดยเฉพาะบริเวณใต้สะพานพระราม 8 ทางกองทัพเรือ จะเตรียมมนุษย์กบเพื่อดูแลความปลอดภัยในกรณีคนตกน้ำ ทั้งนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเจ้าของสวนสาธารณะ จะมอบหมายให้สำนักงานเขตเป็นศูนย์บัญชาการในการดูแลความปลอดภัยของเขตตนเองเป็นหลัก

นายธีรยุทธกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา 2 -3 ปี ไม่มีเหตุร้ายเกี่ยวกับการจุดพลุและโคมลอย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้ มีการปล่อยโคมลอยไปตกที่บ้านเรือนประชาชนและคอนโดมิเนียมได้รับความเสียหายหลายพื้นที่ จึงมี คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 27/2559 เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน โดยมีการกำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กทม.จึงออกข้อบัญญัติและประกาศตามภายหลัง รวมถึงมีการรณรงค์เพิ่มเติม จึงไม่มีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นอีกตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันหากมีกรณีต้องการจุดพลุหรือดอกไม้ไฟขึ้นสู่อากาศ ต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขตในพื้นที่เท่านั้น หากผู้ประกอบการที่ต้องการขายพลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอย ต้องระวังกฎหมายควบคุมเกี่ยวกับพลุ ดอกไม้ไฟ สิ่งเทียม อาวุธปืน ซึ่งมีการบังคับใช้อยู่แล้ว

นายธีรยุทธกล่าวต่อว่า ในปีนี้ กทม.มีมาตรการเพิ่มเติมคือ ไม่ยืนขอบบ่อ ไม่ยืนขอบคลอง ไม่ยืนขอบแม่น้ำ ซึ่งจะใช้การประชาสัมพันธ์และเฝ้ากำกับดูแลในพื้นที่ที่มีการลอยกระทง โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และกองเรือดำน้ำ นอกจากนี้ กทม.ได้ออกประกาศ ห้ามลงเก็บเหรียญในกระทงเด็ดขาด เนื่องจากเคยเกิดเหตุเป็นตะคริวเสียชีวิต เพราะอยู่ในน้ำเป็นเวลานาน ประกอบกับความมืดจึงไม่มีใครสังเกตเห็น ซึ่งที่ผ่านมา ทุกพื้นที่ที่มีการเปิดให้ลอยกระทงมีผู้ลงไปเก็บเหรียญทุกที่ โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา มีความลึกเชี่ยว หากเกิดอันตรายอาจไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน

“ขอเน้นย้ำว่าลอยกระทงในปีนี้ ทุกอย่างที่จะปล่อยขึ้นสู่อากาศ ไม่ว่าจะเป็นพลุหรือโคมลอย ต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขต หากเป็นดอกไม้ไฟที่จุดตามบ้านเรือนแล้วไม่ปล่อยขึ้นสู่อากาศก็ไม่เข้าข่ายความผิด แต่ขอให้ระวังตนเองเป็นพิเศษอาจระเบิดใส่มือได้ รวมถึงห้ามลงน้ำเก็บเหรียญในกระทงเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายของ กทม.เน้นการตักเตือนเป็นหลัก หากไม่ได้รับความร่วมมือจริงๆ ถึงจะมีการดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาแค่ตักเตือนก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่เคยถึงขั้นต้องดำเนินคดีใดๆ” นายธีรยุทธกล่าว