กต.ประชุมเครียดหาทางช่วยคนไทยในอิหร่าน-อิรัก

กระทรวงการต่างประเทศประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมให้ความช่วยเหลือคนไทยในอิหร่าน-อิรัก ประเมินสถานการณ์ล่าสุดยังไม่กระทบการใช้ชีวิตตามปกติ ยังไม่จำเป็นต้องส่งพาหนะพิเศษรับกลับ

น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า วันนี้(9 ม.ค.) กระทรวงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือในกรอบคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center – RRC) โดยมีนายธนา เวสโกสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน เพื่อประเมินสถานการณ์ความตึงเครียดในอิรัก จากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน และบูรณาการเตรียมพร้อมการให้ความช่วยเหลือคนไทยในอิรักและอิหร่าน รวมทั้งมุ่งให้การสนับสนุนสถานเอกอัครราชทูตที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุดังกล่าว

“สำหรับการดำเนินการของรัฐบาลไทยและกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความตึงเครียดในอิรักและอิหร่านอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงกังวล ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ กระทรวงการต่างประเทศโดยสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ประกาศแจ้งเตือนคนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน ได้ออกประกาศแนะนำให้ผู้ที่จะเดินทางไปอิรัก ยกเว้นการเดินทางชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโรออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในอิสราเอลและอียิปต์เพิ่มความระมัดระวัง โดยสถานเอกอัครราชทูตทั้งสามแห่งได้ประชาสัมพันธ์ช่องทางการติดต่อสถานเอกอัครราชทูตในกรณีฉุกเฉินไว้แล้ว” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว

น.ส.บุษฎี กล่าวว่า ผลการประชุมของคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center – RRC) ที่ประชุมคณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน เห็นว่า ในชั้นนี้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน ได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้ความช่วยเหลือคนไทยในอิหร่านและอิรักได้ตามแผน ในสถานการณ์ที่จำเป็นและเหมาะสม โดยที่ประชุมรับทราบข้อมูลสถานการณ์ในพื้นที่โดยตรงจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมานและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์สถานเอกอัครราชทูตทั้ง 2 แห่ง เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่มีความรุนแรงที่จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติของคนไทยในพื้นที่ โดยยังใช้ชีวิตตามปกติ

“ที่ประชุมรับทราบการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือคนไทยตามสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และเห็นพ้องกันว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องส่งพาหนะพิเศษจากส่วนกลางไปช่วยเหลือคนไทยในประเทศที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และพิจารณาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็นเร่งด่วน” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว 

น.ส.บุษฎี กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาแผนเผชิญเหตุและแผนอพยพคนไทย ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการ ของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัมมาน โดยคณะทำงาน RRC ได้ขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่เกี่ยวข้องปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งบูรณาการการให้ความช่วยเหลือคนไทยของส่วนราชการด้วยแล้ว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็น จะประชุม RRC เพื่อประเมินสถานการณ์และพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง.