กกต.เตือนผู้สมัครนายก อบจ.เช็คคุณสมบัติต้องห้าม “คดีหุ้นสื่อ” ใส่เงินบริจาคทำบุญต้องระวัง



  • ฝ่าฝืนคุก10 ปี ปรับสูงสุด 200,000 บาท
  • ให้ศาลเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 20 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(29 ต.ค.)​ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดกิจกรรม Kick Off ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)​โดย ดร.ฐิติ​เชฏฐ์​ นุชนาฏ​ กรรมการการเลือกตั้ง ได้เตือนผู้สมัคร อบจ.ต้องตรวจสอบคุณสมบัติและคุณลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 49-50 ของตัวเองให้ดีหากพบฝ่าฝืนมีความผิด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท แล้วให้ศาลเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 20 ปีพร้อมย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้งอย่างเข้มงวด และหวังว่าจะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ออกมาใช้สิทธิ ราว 75%

ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยืนยันว่าข้าราชการการเมืองหรือผู้มีตำแหน่งทางการเมือง ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการหาเสียงโดยเด็ดขาดตามมาตรา 34 ของกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น โดยพรรคการเมืองสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้แต่ห้ามหาเสียงส่วนกลุ่มหรือคณะ ในข้อกฎหมายไม่ได้ห้ามส่งผู้สมัคร ส่วนบุคคลในกลุ่มหรือคณะจะช่วยพรรคการเมืองหาเสียงก็สามารถทำได้แต่ต้องแจ้งกรรมการการเลือกตั้งว่าเป็นผู้ช่วยหาเสียง จึงเป็นกังวลเรื่องของคุณลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครโดยเฉพาะการถือหุ้นในบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชน ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นไปแล้ว

“ต้องตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองให้ดีว่าครบถ้วนตามกฏหมายหรือไม่ เช่นเดียวกับการบริจาคเงินใส่ซองงานบุญก็ควรระวังเช่นกัน เพราะหากมีคำร้องมาในกรณีดังกล่าวทางกรรมการการเลือกตั้งก็จะต้องมีการวินิจฉัยตามข้อเท็จจริงต่อไป”พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว