- จัดการการระบาดได้ดีแค่ไหน ขึ้นอยู่กับประชาชน
- รณรงค์ใช้หน้ากากผ้า
- ไม่เป็นภาระการทำลายทิ้ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ Covid-19 ว่า อยากให้มองจากความเป็นจริงที่จำนวนผู้ป่วยในปัจจุบัน วันที่ 4 มีนาคม เรามีผู้ป่วยที่ต้องรักษาเพียง 11 คนเท่านั้น เพราะเรารักษาหาย ไม่มีเชื้อ ให้กลับบ้านไปแล้วถึง 31 คน ขณะที่ยอดการติดเชื้อสะสมตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เราพบผู้ติดเชื้อ 43 คน จากการเฝ้าระวังบุคคลเป็นจำนวนกว่า 3 พันคน การที่เราพบผู้ติดเชื้อ และรักษาหายกว่า 2 จาก 3 จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด คือประสิทธิภาพของการทำงาน
แน่นอนว่าประชาชนย่อมวิตกกังวลกับโรคนี้ เพราะเป็นเรื่องใหม่ แต่หากดูที่ยอดการรักษาหายก็หวังว่าจะคลายความกังวลได้บ้าง ทั้งนี้ ต้องขอบคุณประชาชนจำนวนมากที่ดูแลสุขภาพตนเอง มีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เราจะจัดการการระบาดได้ดีแค่ไหน ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นส่วนสำคัญ ถ้าประชาชน ระมัดระวังตนเอง และนึกถึงสังคม การคุมโรคย่อมมีประสิทธิภาพ
ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สนับสนุนทุกทรัพยากรที่มีในการคุม Covid-19 อย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องบุคลากร แพทย์ พยาบาล ยา สถานที่ เวชภัณฑ์ เรามีความพร้อม และเรายังมีกฎหมายเข้ามาเป็นเครื่องมือคอยต่อสู้กับโรค
สำหรับเรื่องหน้ากากอนามัยที่ขาดแคลนนั้น ในส่วนของสถานพยาบาล ได้จัดหาเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของสถานพยาบาล และกระทรวงพาณิชยามีมาตรการออกมามากมาย เพื่อจัดหาหน้ากากอนามัย ให้ไปถึงมือประชาชน
ขอขอบคุณความไม่ประมาทของพี่น้องคนไทย แต่สิ่งที่ต้องขอให้ทุกคนช่วยกันคิดคือ เมื่อเราเลือกใช้หน้ากากอนามัย หรือ Surgery Mask กันหมด ซึ่งเป็นหน้ากากแบบใช้แล้วทิ้ง เราจะไปทิ้งที่ไหน กำจัดอย่างไร เพราะบางส่วนของหน้ากากย่อยสลายยาก และจะทำอย่างไร ไม่ให้กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ขอย้ำว่า ตนชื่นชมในความไม่ประมาทของทุกท่าน แต่ขอรบกวนเรียนข้อมูลทางการแพทย์ให้ทราบ ข้อเท็จจริงคือ หน้ากากอนามัยแบบ Surgery Mask นั้น เหมาะกับผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ แต่ประชาชนที่ไม่ป่วย ขอให้ทบทวนใช้หน้ากากผ้า เพราะทำเองได้ ซักได้ ประหยัด และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า