

- ลดภาษีเงินได้-ที่ดินจูงใจเอกชนปลูกป่าในที่ว่าง
- โอนสิทธิลดหย่อนให้ผู้ถือครองรายใหญ่ได้ด้วย
- ดันตั้งกรรมการดูแลอากาศสะอาด-นายกฯประธาน
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ สมาชิกกว่า 100,000 ราย ได้ระดมความเห็นในการแก้ปัญหาและบริหารจัดการฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณา โดยประเด็นสำคัญ เช่น ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้ และภาษีที่ดิน สำหรับเอกชนที่ปลูกป่าเศรษฐกิจตามมาตรการสงเสริมพื้นที่สีเขียว ด้วยการให้นำค่าใช้จ่ายที่บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลใช้ในการปลูกและดูแลป่าเศรษฐกิจมาใช้หักลดหย่อนภาษีได้ และขอให้สามารถโอนสิทธิการลดหย่อนภาษีดังกล่าวให้ผู้ถือครองรายใหม่ ที่จะรับช่วงดูแลป่าเศรษฐกิจต่อเนื่อง เพราะป่าเศรษฐกิจจะมีอายุ 5-20 ปีจึงตัดขายได้ ซึ่งปริมาณต้นไม้จำนวนมากจะช่วยลดฝุ่นและแก้ปัญหาภัยแล้งได้ และที่สำคัญภาคเอกชนมีพื้นที่ว่างเปล่าพร้อมที่จะดำเนินการหากรัฐบาลมีมาตรการจูงใจ
ส่วนมาตรการอื่น เช่น ส่งเสริมเพิ่มมูลค่าเศษวัสดุที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบอ้อย ต้นและซังข้าวโพด มาอัดเป็นก้อนแล้วขายให้โรงไฟฟ้าชีวมวลท้องถิ่น และโรงงานอุตสาหกรรมที่นำไปเป็นเชื้อเพลิงได้ โดยให้ขยายโรงงานชุมชุมให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีวัตถุดิบทางการเกษตรเพื่อลดการเผาทิ้ง, ต้องการให้นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการดูแลอากาศสะอาด โดยมีนายกฯเป็นประธาน เพื่อให้สอดคล้องกับกรณีที่หอการค้าไทยได้ผลักดันร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด พ.ศ…. ซึ่งล่าสุดได้รวบรวมรายชื่อคนไทยกว่า 30,000 คนทั่วประเทศ ก่อนที่จะยื่นให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
นอกจากนี้ ขอให้ภาครัฐเข้มงวดกับการตรวจจับรถควันดำทุกประเภท และให้ตรวจควันดำตั้งแต่ต้นทางของบริษัทรับขนส่งสินค้า ตรวจสภาพรถบรรทุก และรถยนต์ ที่อายุการใช้งานเกิน 7 ปี เป็นปีละ 2 ครั้งจากปัจจุบันปีละครั้ง รวมทั้งทบทวนมาตรการเดินรถวันคู่-วันคี่ และจำกัดเวลาเดินรถ เพราะมาตรการดังกล่าว ทำให้สินค้าบางเกษตรบางตัวเน่าเสีย และเพิ่มต้นการขนส่ง เนื่องจากรถบรรทุกต้องพักก่อนเข้ากรุงเทพฯ เป็นต้น