

วันที่ 15 ส.ค.2564 เวลา 14.00 น. ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯ ครอบครัว “ชุณหะวัณ” และ ครอบครัว “พหิทธานุกร(หลาน)” ได้จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ ภริยา พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถึงแก่อนิจกรรมจากโรคติดเชื้อโควิด-19 ในวัย 101 ปี โดยมี บุคคลในครอบครัวลูกและหลาน เข้าร่วมงาน ได้แก่ นางวาณี ชุณหะวัณ บุตรสาวท่านผู้หญิงบุญเรือน นายกร ทัพพะรังสี อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายปานปรีย์ และนางปวีณา พหิทธานุกร (หลาน) น.ส.ธิษะณา และ น.ส.สิริจรรยา ชุณหะวัณ บุตรสาวนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ

รวมถึงบุคคลสำคัญทางการเมือง เข้า ร่วม อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นต้น

นายสุวัจน์ กล่าวว่าในฐานะที่ ทำงานใกล้ชิดกับพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีและ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เห็นว่าท่านผู้หญิงบุญเรือนคือ เป็นภริยานายกรัฐมนตรีที่เสริมบทบาทให้นายกรัฐมนตรี สร้างภาพลักษณ์และการยอมรับสู่สากล เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจด้านต่างประเทศ โดยจะเห็นได้ว่าในสมัยนั้นพล.อ.ชาติชาย เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีความโดดเด่นด้านต่างประเทศ จึงถือว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอย่างแท้จริง
และพวกตนในฐานะนักการเมืองที่คุ้นเคยกับพล.อ.ชาติชาย มาตลอด ก็เห็นว่าท่านผู้หญิงบุญเรือนมีบุคลิกเป็นกันเอง คอยพูดคุยให้หายเครียด ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็จะมีแต่เสียงหัวเราะ หรือเวลาที่มีสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดท่านผู้หญิงบุญเรือนก็จะคอยเป็นกำลังใจให้ตลอด
นอกจากนี้นางวาณี ชุณหะวัณ กล่าวสำนึกฯ ในงานพระราชทานเพลิงของท่านผู้หญิง บุญเรือน ชุณหะวัณ ว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ มีโชควาสนายิ่งที่มีโอกาสได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในเจ้านายหลาย พระองค์มาตลอดชีวิต ตั้งแต่น้อยคุ้มใหญ่ เริ่มตั้งแต่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระเมตตาอุดหนุนการศึกษา และความเป็นอยู่จนได้มีวิชาความรู้ติดตัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ได้รองพระยุคลบาทสมาชิกครอบครัวมหิดลทุกพระองค์โดยใกล้ชิดในประเทศสวิส เป็นวันคืนแสนสุขที่ท่านผู้หญิงบุญเรือนจดจำไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมไม่เคยละลืม พระเดชพระคุณของเจ้านายทุกพระงค์เป็นสิริมงคลอันดื่มด่ำอยู่ในใจของท่านผู้หญิงบุญเรือน แลครอบครัวเสมอมา

แม้ในวาระที่สุดแห่งชีวิต เมื่อท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ กราบถวายบังคมลาถึงแก่อนิจกรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเพลิงศพตามเกียรติยศพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้เปยบเสมือนน้ำทิพชโลมใจเหล่าทายาทผู้สูญเสีย และเป็นเครื่องยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ชีวิตของท่านผู้หญิงบุญเรือนตั้งแต่ต้นจนอวสาน ได้เริ่มต้น ดำเนินสืบเนื่องมา และจบท้ายภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึงสามรัชกาล และสมเด็จพระบรมวงศ์ทุกพระองค์ นับเป็นวาสนาพิเศษที่ผู้เป็นทายาททั้งปวงจะไม่มีวันลืมเลือนเป็นอันขาด
