“สุรพงษ์”สั่งเยียวยา ช่วยเหลือเต็มที่ เหตุรถทัวร์ชนต้นไม้ที่ทับสะแก



“สุรพงษ์”ห่วงใยกรณีอุบัติเหตุรถโดยสารประจำทาง ชนต้นไม้ข้างทาง ที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งการด่วน! เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงการเกิดอุบัติเหตุและร่วมกับบริษัทขนส่งจำกัดหาแนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุ ด้าน บขส.ลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุรถ บ.ศรีสยาม เสียหลักตกข้างทาง พร้อมกำชับผู้ประกอบการ ให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต อย่างเต็มที่

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกรมการขนส่งทางบก กรณีรถทัวร์โดยสารตกถนนชนต้นไม้ บริเวณถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 331-332 หมู่ที่ 7 ต.ห้วงยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขาล่องใต้ ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร โดยได้ตรวจแล้วพบว่าเป็นรถโดยสารประจำทาง สาย 9914 กทม.-นาทวี รถหมายเลขทะเบียน 14-3301 กรุงเทพมหานคร  มาตรฐานรถ ม.4ข (รถโดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น) บริษัท ศรีสยามเดินรถ จำกัด (รถร่วม) มีผู้บาดเจ็บ 32 คน เสียชีวิต 14 คน ทั้งนี้ขนส่งทางบก โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบว่า พนักงานขับรถคันเกิดเหตุ ชื่อ นายสมศักดิ์ มากเอียด อายุ 38 ปี ใบอนุญาตขับรถ : มีใบอนุญาตขับรถทุกประเภทชนิดที่ 2 ใบอนุญาตเลขที่ สข00339/63 (สิ้นอายุวันที่ 5 สิงหาคม 69)

.คนขับเจอหนักทั้งจำและปรับ

โดยมีบทลงโทษข้อหาความผิดและบทลงโทษผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถผู้ประกอบการขนส่งประจำทาง ดังนี้ ผิดฐานยินยอมให้พนักงานขับรถปฏิบัติหน้าที่หย่อนความสามารถในการขับรถ  มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท   ส่วนพนักงานขับรถ จะมีความผิดฐานขับรถประมาท  มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

รวมถึงเกิดการขับขี่โดยประมาท ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายผู้อื่น มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

.ชดเชยผู้เสียชีิวิต บาดเจ็บ เต็มที่

นอกจากนั้น กรมการขนส่งทางบกได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบเหตุที่โรงพยาบาล และจัดตั้งศูนย์การช่วยเหลือที่ โรงพยาบาลทับสะแก และ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าประจำศูนย์ช่วยเหลือฯผู้ประสบอุบัติเหตุ พร้อมทั้งได้ตรวจสอบการคุ้มครองของประกันภัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ดังนี้ (1) ประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.)เสียชีวิตรายละ 500,000 บาท บาดเจ็บ ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินรายละ 80,000 บาท   2) ประกันภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 3) ทุนประกันไม่เกิน 10,000,000 (รวมบาดเจ็บและเสียชีวิต) ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ถ้าค่ารักษาเกินกว่าที่ พรบ.คุ้มครอง (เกิน 80,000) ประกันชั้น 3 จ่ายให้อีก ไม่เกินรายละ 100,000 บาท ส่วนผู้ที่เสียชีวิต จะได้รับค่าคุ้มครองเบื้องต้น รายละ 100,000 บาท ที่เหลือจะได้รับจากการเฉลี่ยจ่ายจากทุนประกัน 10,000,000 (หลังจากหักค่ารักษาและค่าคุ้มครองเบื้องต้น)

.บขส.ลงพื้นที่สอบอุบัติเหตุรถทัวร์เสียหลักตกข้างทาง

นางสาวระพิพรรณ วรรณพินทุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (5 ธ.ค. 66) ได้เตรียมลงพื้นที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบและเข้าช่วยเหลือผู้โดยสารจากอุบัติเหตุรถโดยสารของ บริษัท ศรีสยาม เดินรถ จำกัด เสียหลักตกข้างทางบริเวณ ถนนเพชรเกษม กม.331 ใกล้เคียงหาดวนกร  ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.ของวันนี้ อย่างไรก็ตามได้รับรายงานเบื้องต้นว่า รถโดยสารคันดังกล่าววิ่งให้บริการในเส้นทาง กรุงเทพฯ – นาทวี หมายเลขทะเบียนรถ 14 – 3301 กทม. หมายเลขข้างรถ ม.4(ข)/9914 – 1 เมื่อมาถึงบริเวณถนนเพชรเกษม (ขาออก) หลักกิโลเมตรที่ 331 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เกิดเหตุเสียหลักตกข้างทาง เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 20 ราย ผู้เสียชีวิต จำนวน 14 ราย โดยผู้บาดเจ็บได้ส่งเข้ารับการรักษาตัวที่ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และโรงพยาบาลทับสะแก เรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

.ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตเต็มที่

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเรื่องประกันภัย พบว่ารถคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยภาคบังคับและภาคสมัครใจกับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด โดยความคุ้มครองเบื้องต้น กรณีเสียชีวิต 1,100,000 บาท/คน กรณีได้รับความเสียหายต่อร่างกายและอนามัย ตาม พรบ จะได้รับความคุ้มครอง 80,000 บาท/คน นอกจากนั้นขณะนี้ได้มอบหมายสถานีเดินรถประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและเข้าเยี่ยมผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ และอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลผู้โดยสาร โดย บขส.พร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือและประสานงานเกี่ยวกับสิทธิ์ความคุ้มครองประกันภัยให้กับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุในครั้งนี้