

- เชื่อมเส้นทางสิงห์บุรี-นครสวรรค์ สนับสนุนโครงข่ายเส้นทางการค้าของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
- เผยทางหลวงหมายเลข 11 สายอินทร์บุรี-เชียงใหม่ จะเป็นทางหลวงสายประธานแนวเหนือ-ใต้ ระยะทาง 545 กิโลเมตร
- ชี้เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจรทั้งในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 1 ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 11 สาย แยกอินทร์บุรี – อ.สากเหล็ก ตอน แยกอินทร์บุรี – บ.หนองบัวทอง จาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร แล้วเสร็จ ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่ต้องการบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ สนับสนุนโครงข่ายเส้นทางการค้ากลไกความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub – Region Economic Co – Operation : GMS)
ทั้งนี้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 สายอินทร์บุรี-เชียงใหม่ จะเป็นทางหลวงแผ่นดินสายประธานแนวเหนือ-ใต้ เชื่อมการคมนาคมระหว่างจังหวัดในภาคกลางกับจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย มีระยะทางประมาณ 545 กิโลเมตรโดยเริ่มต้นจากทางแยกต่างระดับอินทร์บุรี บนทางหลวงหมายเลข 32 ในพื้นที่อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ปลายทางบรรจบกับถนนสุเทพ ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีอัตราการเดินทางและขนส่งเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ดังนั้น กรมทางหลวงจึงดำเนินการก่อสร้างขยายตอน แยกอินทร์บุรี-บ.หนองบัวทอง จุดเริ่มต้นโครงการบริเวณ แยกอินทร์บุรีต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ที่กม.0+000 มีจุดสิ้นสุดที่บริเวณ ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ที่ กม.28+000 ระยะทางยาวประมาณ 28 กิโลเมตร จากมาตรฐานเดิมขนาด 2 ช่องจราจร เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ 4 ช่องจราจร ผิวทางแบบคอนกรีต ช่องจราจรกว้างช่องละ 3.5 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.5 เมตร ด้านในกว้าง 1.5 เมตร รวมผิวทางกว้าง 11 เมตร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบแบริเออร์คอนกรีต พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้การคมนาคมขนส่งมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค ส่งเสริมคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมของจังหวัด และภาพรวมของประเทศ ช่วยลดปริมาณจราจรจากเส้นทางหลัก โดยเฉพาะผู้ใช้ทางที่มีปลายทางไป จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางปฏิบัติตาม “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้ร่วมทางประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางการเดินทางได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง โทร 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด24 ชั่วโมง)