ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง… “สามารถ ราชพลสิทธิ์”ออกโรงโต้คมนาคมแทนกทม.ปมค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวแพงแต่ค่าตั๋วรถไฟฟ้าสีส้มก็ไม่ยิ่งหย่อน



ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัวกล่าวถึง กรณีที่เป็นข่าวครึกโครมเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมาที่กระทรวงคมนาคมได้มีความเห็นแย้งการเก็บอัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ กรุงเทพมหานครจัดเก็บค่าโดยสาร 104 บาทตลอดสายว่ามีค่าโดยสารที่แพง แถมยังมีการเปรียบเทียบกับค่าโดยสารของรถไฟฟ้าในปัจจุบันว่ามีราคาที่ถูกกว่าและมีสถานที่ให้บริการที่ยาวกว่าโดยระบุว่า

ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง!
ค่าตั๋วรถไฟฟ้าสายสีส้มพอๆ กับสายสีเขียว
ที่ ก.คมนาคมแย้งว่าแพง

กระทรวงคมนาคมค้านการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ด้วยเหตุผลหลักคือค่าโดยสารแพง แต่ค่าโดยสารที่ว่าแพงนี้มีราคาพอๆ กับค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มในสังกัดกระทรวงคมนาคม เมื่อเป็นเช่นนี้กระทรวงคมนาคมจะหั่นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มลงหรือไม่?

เป็นข่าวครึกโครมเมื่อกระทรวงคมนาคมออกโรงคัดค้านการขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ กทม.ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยออกไป 30 ปี ตั้งแต่ปี 2572-2602 ด้วยเหตุผลหลักคือค่าโดยสารสูงสุด 65 บาทนั้นแพงเกินไป แพงกว่าค่าโดยสารสูงสุดของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีค่าโดยสารสูงสุดเท่ากับ 42 บาท แม้ว่าได้มีการชี้แจงให้เห็นข้อเท็จจริงว่าหากคิดค่าโดยสารต่อระยะทางหนึ่งกิโลเมตร จะพบว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวถูกกว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าเสียงค้านของกระทรวงคมนาคมก็ยังไม่เบาลง

พอหันมาดูรถไฟฟ้าสายสีส้มของ รฟม.ในสังกัดกระทรวงคมนาคมซึ่งอยู่ในระหว่างการคัดเลือกเอกชนมาร่วมลงทุนพบว่ามีค่าโดยสารพอๆ กับค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว กล่าวคือ ณ วันที่ 1 มกราคม 2566 ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มจะอยู่ระหว่าง 17-62 บาท ในขณะที่ ณ เวลานั้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะอยู่ระหว่าง 16-68 บาท ซึ่งคำนวณจากค่าโดยสารในปัจจุบัน 15-65 บาท (กรณีขยายสัมปทานออกไป 30 ปี) โดยใช้อัตราเงินเฟ้อ 2% ต่อปี ทั้งนี้ ในช่วงสถานีที่ 1-13 ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะถูกกว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้ม 1-4 บาท ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเดินทางไม่เกิน 13 สถานี แต่ตั้งแต่สถานีที่ 14 เป็นต้นไป ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มจะถูกกว่า 2-6 บาท ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะรถไฟฟ้าสายสีส้มได้รับเงินสนับสนุนด้านงานโยธาจากรัฐบาล แต่รถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่ได้รับเงินสนับสนุนด้านงานโยธาจากรัฐบาลเลย

ได้เห็นตัวเลขค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีส้มชัดๆ กันอย่างนี้แล้ว หากกระทรวงคมนาคมเห็นว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวยังแพงอยู่ ก็พอจะพูดได้ใช่ไหมว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งมีราคาพอๆ กับสายสีเขียวทั้งๆ ที่รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่างานโยธาก็แพงเช่นกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ กระทรวงคมนาคมก็ควรหั่นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มให้ถูกลงด้วยให้เหมือนกับความต้องการที่จะหั่นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ถ้าทำได้เช่นนี้ พี่น้องประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้าในราคาที่ถูกลง แต่รัฐบาลจะต้องแบกภาระหนักในการสนับสนุนค่าโดยสาร รัฐบาลจะแบกไหวมั้ย?