รัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ลดฝุ่น PM 2.5 ตั้งเป้าไม่ให้เกิน 5% ของอ้อยทั้งหมด



  • อ้อยเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญของประเทศ
  • ช่วยเหลือเกษตรกรไม่ให้ตัดอ้อยไฟไหม้
  • ถือเป็นหัวใจสำคัญและได้รับการยอมจากเกษตรกร

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในภาคการเกษตร ทีมีสาเหตุหลักมาจากการตัดอ้อยไฟไหม้ ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าไม่ให้มีการตัดอ้อยไฟไหม้เกิน 5% ของจำนวนอ้อยทั้งหมด ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตราการส่งเสริมการตัดอ้อยสด ผ่านการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดโดยไม่ต้องเผาอ้อย สำหรับฤดูการผลิต 2565/2566  มีการอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือเป็นจำนวน 8,159 ล้านบาท

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ดำเนินโครงการให้กู้ยืมและชดเชยดอกเบี้ย ปี 2565-2567 เป็นวงเงิน ปีละ 2,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี รวมเป็นเงิน 6,000 ล้านบาท ให้กับชาวไร่อ้อย เพื่อชดเชยสำหรับการจัดการแหล่งน้ำ ซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย และแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 สำหรับแนวโน้มราคาของอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2565/2566 คาดการณ์ว่า จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่าตันละ 1,000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยราคาน้ำตาลตลาดโลก หากราคา (รวมพรีเมี่ยม) อยู่ที่ประมาณ 20.00 เซนต์/ปอนด์ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 34 บาท/เหรียญสหรัฐ ราคาอ้อยขั้นต้นจะสูงกว่าตันละ 1,000 บาท”

“อ้อยเป็นสินค้าเกษตรที่สำคัญของประเทศ ทั้งในเรื่องของการบริโภคและการแปรรูปเป็นพลังงานชีวมวล ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดแนวทางการยกระดับประสิทธิภาพแบบครบวงจรตั้งแต่ภาคการเกษตร จนถึงภาคอุตสาหกรรม ที่สำคัญต้องไม่ให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อยเป็นเหตุของปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 นโยบายการสร้างแรงจูงใจและช่วยเหลือเกษตรกรไม่ให้ตัดอ้อยไฟไหม้ ถือเป็นหัวใจสำคัญและได้รับการยอมจากเกษตรกร”