
- ด้าน “อนุทิน” เข้าเยี่ยมศูนย์บริการวัคซีนโควิด-19 มธ. ยกย่องมาตรฐานระดับท็อปของประเทศ
- เผย รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เปิดแผนขยายเตียงไอซียูรวมมีเตียงดูแลทุกกลุ่ม 100 เตียง -รพ.สนาม อีก 470 เตียง
ผู้สื่อข่าวรายว่า วันนี้ (2 ก.ค.64) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้เดินทางมาเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์รับวัคซีนโควิด-19 ธรรมศาสตร์รังสิต ณ อาคารยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ศูนย์รังสิต พร้อมให้กำลังใจบุคลากร และจิตอาสาที่เสียสละปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง โดยมี ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นตัวแทนให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ศูนย์รับวัคซีนโควิด-19 ธรรมศาสตร์รังสิตอยู่ในระดับท็อปของประเทศ โดยที่ผ่านมาได้ช่วยแบ่งเบาภาระของสาธารณสุข และพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เป็นอย่างมาก โดยได้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ซึ่งจากการเยี่ยมชมในวันนี้ พบว่าธรรมศาสตร์มีความพร้อมและมีมาตรฐานเป็นอย่างสูง

รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติอยู่ระหว่างการขยายศักยภาพในการให้บริการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ และความต้องการเตียงที่เพิ่มมากขึ้น โดยในระยะแรกจะเพิ่มห้องไอซียูความดันลบ 8 เตียง และในระยะที่ 2 จะเพิ่มขึ้นอีก 8 เตียง รวมทั้งสิ้น 16 เตียง รวมถึงในอนาคตจะพิจารณาเพื่อขยายเพิ่มเติมอีกจนกว่าจะเต็มศักยภาพเท่าที่จะทำได้
รศ.นพ.พฤหัส กล่าวต่อว่า นอกจากการเพิ่มเตียงแล้ว ในส่วนของบุคลากรที่จะเข้ามาดูแลรักษาผู้ป่วย ก็ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุข ที่นำแพทย์อายุรศาสตร์เชี่ยวชาญที่จบใหม่ และพยาบาลมาช่วยในการเพิ่มอัตรากำลัง นั่นทำให้ขณะนี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติสามารถให้บริการไอซียูความดันลบได้ทั้งสิ้น 40 เตียง และเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 อีก 60 เตียง รวมทั้งสิ้น 100 เตียง ในจำนวนนี้ยังไม่รวมเตียงของโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ อีก 470 เตียง
ทั้งนี้สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ ยิมเนเซียม 4 ขณะนี้สามารถฉีดได้ประมาณวันละ 2,000 คน และยังสามารถขยายไปถึง 3,000 คนได้ โดยวัคซีนที่นำมาฉีดคือ AstraZeneca นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังได้ประสานกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และได้รับการจัดสรรวัคซีนมาฉีดให้กับบุคลากรในเครืออุดมศึกษา ทั้งในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยโดยรอบในจังหวัดปทุมธานี เช่นมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกด้วย
ด้าน รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ภารกิจสำคัญที่สุดของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในขณะนี้คือการสนับสนุนการทำงานของทุกฝ่ายเพื่อสู้กับโควิด-19 โดยธรรมศาสตร์ได้ระดมสรรพกำลังและทรัพยากรของตัวเองที่มีทั้งหมด มาใช้เพื่อดูแลประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย และจังหวัดปทุมธานี โดยขอยืนยันว่าธรรมศาสตร์จะทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับบุคลากรทางการแพทย์และทุกภาคส่วน จนกว่าประเทศไทยจะควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้สำเร็จ










