- วอนประชาชนซื้อเท่าที่จำเป็นหวั่นซื้อเพิ่มทำของขาด
- ยันแค่หน้ากากอนามัยแบบผ้าก็ใช้ป้องกันได้แล้ว
- ใครซื้อไม่ได้โทร. 1569 ประสานผู้ผลิตเอาของมาขายให้
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ หน้ากากอนามัยทุกประเภท ทั้งแบบเอ็น 95, คาร์บอน ฯลฯ ยังมีเพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ ประชาชนไม่จำเป็นต้องแห่กักตุน หรือซื้อเก็บไว้จำนวนมาก เพราะจะเป็นการสร้างความต้องการเทียม จนอาจทำให้ปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่หลายรายได่เร่งกำลังการผลิต และผลิตต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง บางรายต้องประกาศรับสมัครคนงานเพิ่มจำนวนมาก เพื่อผลิตให้เพียงพอรองรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา
“อย่างที่ทราบ ไทยใช้หน้ากากอนามัยเดือนละ 30 ล้านชิ้น แต่ช่วงนี้อาจเพิ่มเป็น 40-50 ล้านชิ้น ซึ่งหากไม่ผลิตเพิ่มเลย สต๊อกของผู้ผลิตทุกรายที่มีอยู่ราว 200 ล้านชิ้น จะมีเพียงพอใช้ไปได้อีก 4-5 เดือน แต่ขณะนี้ทุกรายเร่งผลิตเพิ่ม ดังนั้น ประชาชนก็ไม่ควรซื้อเพิ่ม ให้ซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ถ้าซื้อกักตุนไว้ อาจทำให้ไม่เพียงพอ ถ้าคิดง่ายๆ เฉพาะคนในกรุงเทพฯ มี 10 ล้านคน ถ้าซื้อเก็บไว้คนละ 10 ชิ้น ก็ต้องใช้มากถึง 100 ล้านชิ้น ปริมาณก็จะไม่เพียงพอแล้ว”
อย่างไรก็ตาม สำหรับไวรัสโคโรนา ใช้เพียงหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้ากากแบบเอ็น 95 หรือคาร์บอน เพราะละอองน้ำมูก น้ำลาย ที่มีเชื้อไวรัส ไวรัสโคโรนา และแพร่กระจายด้วยการไอ และจาม มีขนาดใหญ่กว่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 มาก อีกทั้งไม่ได้ล่องลอยในอากาศเหมือนฝุ่นพีเอ็ม 2.5 แต่จะแพร่กระจายด้วยการไอ หรือ จาม ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ ล้างมือบ่อยๆ ให้สะอาด , ใช้หน้ากากอนามัยเมื่อจะไปในที่ชุมชน ส่วนผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เป็นไข้หวัด ต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อกันการแพร่กระจาย เป็นต้น
นายประโยชน์ กล่าวต่อว่า สำหรับในบางพื้นที่ที่หาซื้อหน้ากากอนามัยได้ยาก เช่น แหล่งท่องเที่ยว ให้โทร.มาที่สายด่วนกรม 1569 จะประสานผู้ผลิตให้นำหน้ากากอนามัยมาขายให้ ซึ่งขณะนี้มีทั้งหน่วยงานราชการ ประชาชน โทร.เข้ามาจำนวนมาก อย่างล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศ ได้โทร.ประสานเข้ามาเพื่อจัดส่งไปให้สถานทูตไทยในประเทศต่างๆ ซึ่งกรมได้ประสานผู้ผลิตให้แล้ว