“นพ.ธีระ” ชี้ 2 ปัจจัยป้องโควิดระบาดซ้ำในไทย การ์ดไม่ตก แนะรัฐเปิดรับต่างชาติเท่าที่จำเป็น



  • ชี้หลายประเทศยังระบาดกันหนัก
  • เผยควรยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
  • เน้นยืนด้วยขาตนเองลดการพึ่งพาผู้อื่น
  • หากเปิดรับต่างชาติเป็นจำนวนมากและเชื้อระบาดหนักเท่ากับเกมส์จบทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ต.ค.2563) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว : Thira Woratanarat เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 โดยมีเนื้อหาดังนี้…

สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 27 ตุลาคม 2563…

พรุ่งนี้จะทะลุ 44 ล้านคน

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 425,829 คน รวมแล้วตอนนี้ 43,725,066 คน ตายเพิ่มอีก 5,157 คน ยอดตายรวม 1,163,423 คน

อเมริกา ติดเพิ่มอีก 61,867 คน รวม 8,946,413 คน พรุ่งนี้น่าจะขึ้น 9 ล้าน และจะเป็น 10 ล้านภายในเดือนพฤศจิกายน

อินเดีย ติดเพิ่ม 36,728 คน รวม 7,945,777 คน อีก 2 วันจะแตะ 8 ล้านคน

บราซิล ติดเพิ่ม 15,726 คน รวม 5,409,854 คน

รัสเซีย ทำลายสถิติเดิม ติดเพิ่มถึง 17,347 คน รวม 1,531,224 คน  

อันดับ 5-10 ตอนนี้เปลี่ยนอันดับอีกครั้ง กลายเป็นฝรั่งเศส สเปน อาร์เจนตินา โคลอมเบีย สหราชอาณาจักร และเม็กซิโก ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน

สหราชอาณาจักรติดวันเดียวกว่าสองหมื่นคน แซงขึ้นอันดับ 9 ของโลกเรียบร้อยแล้ว ยอดติดเชื้อสูงสุดต่อวันในระลอกสองของเค้าสูงกว่าระลอกแรก 3.47 เท่า หากเป็นไปตามลักษณะการระบาดซ้ำของประเทศอื่นๆ คาดว่าอาจต้องใช้เวลาควบคุมนานไปถึงอย่างน้อยกลางธันวาคม หรืออาจถึงคริสตมาส อัตราตายตอนนี้ 5% มากกว่าไทย 3 เท่า

อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เมียนมาร์และมาเลเซีย ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น

ที่น่าห่วงมากคือสวิสเซอร์แลนด์ เพราะยอดติดเชื้อสูงสุดต่อวันนั้นทวีคูณขึ้นทุกสัปดาห์ ติดต่อกันมา 5 สัปดาห์แล้วล่าสุดติดไปอีกถึง 17,440 คน รวมแล้วติดไปทั้งสิ้น 101,093 คน อัตราตายพอๆ กับไทย (Swiss 1.7% vs Thailand 1.6%)

หลายต่อหลายประเทศในยุโรป ก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน

ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ติดเพิ่มกันหลายร้อย ส่วนจีน และออสเตรเลีย ติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ ฮ่องกงเวียดนาม และนิวซีแลนด์ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…สถานการณ์ในเมียนมาร์ติดเพิ่มอีก 1,426 คน ตายเพิ่มอีก 27 คน ตอนนี้ยอดรวม 46,200 คน ตายไป 1,122 คนอัตราตายตอนนี้ 2.4%

…มาเลเซียดูจะรุนแรงขึ้นไปอีก ล่าสุดติดไปอีก 1,240 คน รวมแล้ว 27,805 คน ตายไปเพิ่ม 7 คน รวมตายไปแล้ว 236 คน แต่อัตราตายยังน้อย 0.8%

ทั้งมาเลเซียและเมียนมาร์ ยอดติดเชื้อสะสมแซงเกาหลีใต้ไปแล้ว

สำหรับประเทศไทยนั้น ผมคาดการณ์ว่าจะมีโอกาสเห็นตั้งแต่ช่วงปลาย พฤศจิกายนเป็นต้นไป…แต่บอกตรงๆ ว่าอยากให้คาดการณ์ผิด

การจะทำให้ไม่ระบาดซ้ำในวงกว้างนั้น มีปัจจัยสำคัญที่กำหนดเกมส์นี้อยู่สองอย่างคือ

หนึ่ง การ์ดของเราทุกคน หากเราป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายก็รีบไปตรวจ…เหล่านี้จะช่วยให้เคสติดเชื้อที่หลุดมาในชีวิตประจำวันแพร่มาให้เราได้ยากขึ้นมาก และโอกาสระบาดซ้ำวงกว้างก็จะน้อยลง

สอง การดำเนินการของหน่วยงานรัฐ…หากตาสว่าง ไม่เน้นโกยเงินผ่านการท่องเที่ยวแลกกับความเสี่ยงต่อชีวิตคนในประเทศ โอกาสระบาดซ้ำก็จะลดลง แต่หากยังหาเรื่องเพิ่มความเสี่ยง ทั้งเพิ่มจำนวนที่กักตัวโดยไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะตรวจตรามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง หรือลดวันกักตัวจาก 14 ไปเหลือ 10 หรือ 7 วันก็ตาม ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นมากครับ

สถานการณ์ระบาดรุนแรงทั่วโลก เพิ่ม 1 ล้านทุก 2.5 วัน แถมยังเป็นฤดูใบไม้ร่วงต่อฤดูหนาว การระบาดจะรุนแรงขึ้นมาก การเปิดประเทศรับคนจากต่างประเทศเข้ามา ควรทำเฉพาะเท่าที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น ไม่งั้นก็มีโอกาส “จบเกมส์”

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้นให้เราอดทน ยืนบนขาตนเอง ลดการพึ่งพา ถือเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จในการเอาตัวรอดจากโรคระบาดครั้งนี้