คนไทยใช้พลังงานลดลงทั้งไฟฟ้า-น้ำมัน



  • ประเมินสถานการณ์การใช้พลังงานจากวิกฤตโควิด-19
  • ทั้งไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
  • เหตุคนหยุดเดินทาง-ทำงานที่บ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากระทรวงพลังงานได้ประเมินผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่มีต่อภาคพลังงานพบว่า ในระยะสั้นๆ จะส่งผลต่อความต้องการใช้พลังงานลดลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะน้ำมัน ที่เป็นผลมาจากการกำหนดมาตรการที่จำกัดการเดินทาง การกำหนดระยะห่างทางสังคม และการระงับการโดยสารทางอากาศ ส่วนผลกระทบในระยะกลาง จะทำให้ความต้องการพลังงานลดลงตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลง โดยเฉพาะความต้องการใช้ไฟฟ้า

ทั้งนี้ ในภาพรวมการใช้ไฟฟ้า ระหว่างเดือน ม.ค.- วันที่ 13เม.ย. ที่ผ่านมา มีความต้องการใช้ไฟฟ้าในระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นเพียง 1.55% คาดว่าเมื่อถึงสิ้นปี นี้ ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะลดลง 0.69% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คือเหลือเพียง 196,873 ล้านหน่วย จากเดิมที่คาดว่าอยู่ที่ 197,873 ล้านหน่วย และความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) จะลดลง 2.9% เหลือเพียง 29,957 เมกะวัตต์ จากเดิมที่คาดว่าจะพีคปีนี้จะอยู่ที่ 30,853 เมกะวัตต์

ขณะเดียวกันในส่วนของ น้ำมันพบว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.) มีแนวโน้มลดลง โดยการใช้น้ำมันเบนซินอยู่ที่ 30.5 ล้านลิตรต่อวัน ลดลง 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปี ที่ผ่านมา และคาดว่าในเดือนเม.ย.นี้ จะมีความต้องการใช้อยู่ที่ 23.1 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีความต้องการใช้ อยู่ที่ 28.0 ล้านลิตรต่อวัน

สำหรับ น้ำมันดีเซลแม้ว่าชไตรมาสแรกปีนี้มีความต้องการใช้ใกล้เคียงกับปี252 คืออยู่ที่ 64.4 ล้านลิตรต่อวัน โดยเดือนมี.ค.ที่ผ่านมามีความต้องการใช้ 64ล้านลิตรต่อวันและคาดว่าเดือนเม.ย.นี้จะอยู่ที่ 56 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่ ก๊าซธรรมชาติ ความต้องการใช้ไตรมาสแรก ปีนี้ อยู่ระดับคงที่ 4,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทั้งนี้ คาดว่าตั้งแต่ เม.ย. จนถึงสิ้นปี นี้ ความต้องการใช้เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จะมีแนวโน้มลดลง เฉลี่ยประมาณ 557 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือลดลง 12%

ทั้งนี้มีปัจจัยของการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ลดลง มาจาก ภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งความต้องการใช้ที่ลดลงส่วนใหญ่ มาจากความต้องการใช้ที่ลดลงของโรงแยกก๊าซธรรมชาติ (GSP) ที่มีปริมาณการใช้เฉลี่ยที่ 254 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน รองลงมาคือภาคอุตสาหกรรม ที่มีปริมาณการใช้เฉลี่ยที่ 152 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และภาคไฟฟ้า ที่มีปริมาณการใช้เฉลี่ยที่ 126 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน