

- ชี้เป็นเหตุไม่เหมาะสม ในเวลาที่ไทยยังเผชิญสถานการณ์โควิด-19
- ลั่นสภาฯ ควรเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ภาษีของประชาชน
- เวลานี้ควรใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ส.ค.) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อให้พิจารณาทบทวนงบประมาณในส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในกลุ่มกิจกรรมมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทยระหว่างประเทศ วงเงินเกือบ 30 ล้านบาท ซึ่งตนในฐานะกรรมาธิการขอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการปรับลดงบประมาณทั้งหมดของกลุ่มนี้ และได้สงวนสิทธิ์ตัดงบประมาณในส่วนนี้ทั้งโครงการ เนื่องจากงบประมาณก้อนนี้ ตนคิดว่าไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนในภาวะของสถานการณ์โควิด-19 การให้งบประมาณสมาชิกรัฐสภาเดินทางไปต่างประเทศของกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาไทย เป็นการขัดต่อนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งขัดต่อนโยบายของประธานรัฐสภา ซึ่งงบประมาณส่วนนี้ควรนำมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือช่วยเหลือประชาชนมากกว่า
“รัฐสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชน ควรใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับส่วนราชการอื่นในการใช้งบประมาณ ซึ่งในส่วนของงบประมาณนี้ ตนจึงได้ขอสงวนสิทธิ์ในการตัดงบประมาณส่วนนี้ทั้งโครงการ ซึ่งเป็นการเดินทางไปต่างประเทศ โดยให้สมาชิกรัฐสภาไทยไปสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาระหว่างประเทศ และงบประมาณก้อนนี้ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 หมดไป และประเทศชาติอยู่ในสถานะการเงินที่ดี ไม่ต้องไปกู้เงินก็สามารถที่จะกลับมาใช้โครงการนี้ได้ แต่ปัจจุบันนี้สถานการณ์ของประเทศนั้นยังคงต้องกู้เงินมาช่วยเหลือประชาชน ดังนั้นการที่หน่วยงานของรัฐสภาได้ตั้งงบประมาณถึงเกือบ 30 ล้านบาทไปต่างประเทศในสถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม จึงได้ขอให้นายชวน หลีกภัย ได้พิจารณาทบทวนงบประมาณก้อนนี้” นายอัครเดช กล่าว
นอกจากนี้ นายอัครเดช ยังได้ชื่นชมสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งอยู่ในกำกับของรัฐสภา ที่งดการเดินทางไปต่างประเทศ และได้ตัดงบประมาณการเดินทางไปต่างประเทศออกทั้งหมดทุกโครงการ ทุกหลักสูตร ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดี ที่ช่วยประหยัดเงินภาษีของประชาชน และได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหน่วยงานอื่นๆ
ทั้งนี้สถาบันพระปกเกล้านั้นถือเป็นแหล่งสร้างบุคลากรทางการเมือง การปกครอง ทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น แต่หน่วยงานของรัฐสภาเอง คือ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังคงตั้งงบประมาณให้สมาชิกรัฐสภาไปเสริมสร้างความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างประเทศวงเงินเกือบ 30 ล้านบาท ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน แต่งบประมาณที่เกี่ยวกับ AIPA หรือการจะไปต่างประเทศเพื่อเสริมสร้างภารกิจ หรือพันธกรณีใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและรัฐสภา ส่วนนี้ตนไม่ติดใจที่จะคงยังให้มีงบในส่วนนั้น