

- เปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ -เอสแอนด์พี 500 ลบเกิน 8%
- นักลงทุนตื่นตระหนกมาตรการปิดประเทศ-ปิดเมือง
- คาดเฟดลดดอกเบี้ยเหลือ 0% ชี้เศรษฐกิจส่อแววถดถอย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาใช้ circuit breaker อีกครั้ง หลังเปิดตลาดในวันแรกของสัปดาห์นี้เพียงไม่นาน ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ดิ่งลงมากถึง 8.1% มากกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 7%ทำให้ตลาดต้องตัดสินใจหยุดการซื้อขายในครั้งแรก 15 นาที ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลงกว่า 2,700 จุดใกล้หลุด 20,000 จุดโดยลงมาในจุดต่ำสุดอยู่ที่ 20,387 จุด
มาตรการ circuit breaker ในคืนนี้ เป็นการใช้ครั้งที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์ หลังจากมีการใช้ 2 ครั้งในสัปดาห์ที่แล้วเพื่อพักการซื้อขายชั่วคราว ขณะที่นักลงทุน ยังคงมีความตื่นตระหนกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปทุกประเทศ รวมทั้งอังกฤษ เข้าสู่สหรัฐฯ และการใช้มาตรการปิดเมืองในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้ง ในหลายเมืองในสหรัฐ เช่น นิวยอร์ก เริ่มมาตรการปิดเมืองแล้วเช่นกัน
นักลงทุนมีความกังวลต่อผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ต่อเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจสหรัฐรุนแรงกว่าคาดมาก หรืออาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุมนัดพิเศษครั้งที่ 2 ของเดือน มากถึง 1 % ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐลงไปที่ 0%
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย หลังจากการหยุดพักการซื้อขาย 15 นาที ดัชนีดาวโจนส์ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20,903.47 จุด ลดลง 2,282 จุด หรือ-9.84% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 7,120.52 จุด ลดลง ดัชน754.35 จุด หรือ -9.58% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,444.03 จุด ลดลง 266.99 จุด หรือ -9.85%