

วันที่ 13 ตุลาคม 2564 เวลา 10.25 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ,นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง และ นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ว่าที่อธิบดีกรมทางหลวงชนบท และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดลพบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยและตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองทรายขาว และองค์การบริหารส่วนตำบลพุคา โดยรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมมอบถุงยังชีพและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ และได้ทำการตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่ทางหลวงหมายเลข 3196 ตอนจันเสน ท่าแค กม. 57+500-58+000 จังหวัดลพบุรี


จากนั้นเดินทาง ไปยังเทศบาลตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดอ่างทอง และเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่สำนักงานเทศบาลตำบลไซโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ลงเรือเข้าไปมอบถุงยังชีพให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลจรเข้ร้อง อำเภอไซโย ก่อนตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ถนนสาย อท.2034 บ้านรี – มหานาม
โดยนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า สำหรับเส้นทางถนนที่เสียหายในจังหวัดลพบุรี ซึ่งในปีนี้ยอมรับว่าปริมาณน้ำที่มาก ทำให้มีน้ำไหลลงจากที่สูงที่ลุ่มต่ำ โดยสนุนเส้นดังกล่าวที่เสียหายนั้นเดิมทีเป็นถนนของชลประทานซึ่งฐานรากอาจไม่แข็งแรง อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้กรมทางหลวง ทำการสำรวจออกแบบเพื่อเร่งซ่อมแซมแล้วเบื้องต้นถนนที่เสียหายในจังหวัดลพบุรีจะใช้งบในการซ่อมแซมประมาณ 600 ล้านบาท
ส่วนในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ซึ่งปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอ่อสูงขึ้น กัดเซาะทำให้ถนนในจังหวัดตามแนวแม่น้ำ ได้รับความเสียหาย มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 872 หลังคาเรือน โดยจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำแนวกั้นน้ำบริเวณเมืองชั้นใน เพื่อป้องกันไม่พื้นที่เศรษฐกิจ และถนนสายหลักในการคมนาคม เช่น ถนนสายเอเซีย ถูกตัดขาด ก็ทำให้ประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่นอกแนวกั้นน้ำได้รับผลกระทบบ้านเรือนถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก คาดว่าจะใช้งบในการซ่อมแซมถนนในพื้นที่จังหวัดอ่างทองประมาณกว่า 40 ล้านบาท โดยการซ่อมแซมถนนในทั้ง 2 จังหวัดนี้ กระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดของบกลาง จากคณะรัฐมนตรีโดยหากทันในสัปดาห์หน้า ก็จะดำเนินการทันทีหรืออย่างช้าก็จะเสนอได้ในสัปดาห์ถัดไป

ทั้งนี้ในส่วนของการสำรวจเส้นทางถนนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยทั่วประเทศนั้นได้มอบหมายให้นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ทำการรวบรวมตัวเลขความเสียหายทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้เพื่อขอจัดสรรงบประมาณในการซ่อมแซมต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวยืนยันว่า จะดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีใน 2 มิติ คือ เรื่องของการสำรวจและเร่งดำเนินการซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ก็จะเร่งสำรวจตามที่เคยมอบหมายให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ไปตรวจสอบว่ามีถนนเส้นทางใด ที่การก่อสร้างในอดีตหรือปัจจุบันไปกีดขวางทางน้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้น และต้องดำเนินการก่อสร้างปรับปรุง ก็ให้เร่งรัดดำเนินการให้มีการ ปรับปรุงถนนเหล่านี้ ซึ่งก็คาดว่าจะได้ข้อสรุปได้เร็วนี้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้หน่วยงานทั้งหมดของกระทรวงคมนาคม ทั้งกรมทางหลวงกรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่าและทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือกับพายุลูกใหม่ ที่จะทำให้เกิดอิทธิพลฝนตกหนักในประเทศไทย โดยให้เตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือประชาชน และในสัปดาห์หน้า กระทรวงคมนาคม ก็จะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปทุมธานีด้วย





