“ไบเดน”เปิดปากครั้งแรกหลังถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน



  • ย้ำสงครามอัฟกานิสถานยาวนาน 20 ปีสิ้นสุดแล้ว
  • หมดยุคสหรัฐฯใช้ทหารขนาดใหญ่สร้างประเทศอื่น
  • ตามล่ากลุ่มก่อการร้ายทั่วโลกสร้างปลอดภัยคนอเมริกัน

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ แถลงข่าวครั้งแรกหลังสหรัฐฯถอนทหารจากอัฟกานิสถานเสร็จสิ้น ยันสงคราม 20 ปี จบแล้ว ถือเป็นจุดสิ้นสุดยุคที่สหรัฐฯ ใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อสร้างประเทศอื่นๆ ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ ยอมรับ ทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากไว้ในกรุงคาบูล หลังถอนทหารออกหมดแล้ว  

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แถลงข่าวปฏิบัติการอพยพและการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน ซึ่งสิ้นสุดลงไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก โดยไม่ลังเลตัดสินใจถอนทหาร แม้หลายฝ่ายโจมตีถึงความรีบร้อน และความวุ่นวายระหว่างปฏิบัติการก็ตาม 

ไบเดน กล่าวชื่นชมว่า การอพยพครั้งนี้ประสบความสำเร็จมาก โดยมีชาวอเมริกันราว 5,500 คนอพยพออกจากอัฟกานิสถาน คิดเป็น 90% ของชาวอเมริกันทั้งหมดที่ต้องการเดินทางออกมา สำหรับชาวอเมริกันที่ยังเหลืออยู่ เราไม่มีเส้นตาย สหรัฐฯ มีพันธกิจที่จะพาพวกเขาออกมา หากต้องการ 

นอกจากนี้ ยังระบุว่า การตัดสินใจเรื่องอัฟกานิสถาน จริงๆ แล้วอยู่ระหว่างการถอนกำลัง หรือการส่งทหารเข้าไปเพิ่ม แต่ “ผมจะไม่ทำให้สงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุดนี้ยืดเยื้อออกไป ผมจะไม่ยืดเวลาถอนทหารออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การตัดสินใจเกี่ยวกับอัฟกานิสถานครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องอัฟกานิสถาน แต่มันเกี่ยวกับการยุติยุคแห่งการใช้ปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่ เพื่อสร้างประเทศอื่นๆ ขึ้นมาใหม่”

“เราได้เห็นภารกิจต่อต้านการก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน จัดการผู้ก่อการร้าย และหยุดการโจมตี กลายเป็นการตอบโต้การจลาจล การสร้างชาติ ความพยายามสร้างประชาธิปไตย การอยู่ร่วมกัน และรวมอัฟกานิสถานเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์หลายร้อยปีของอัฟกานิสถาน การก้าวต่อไปจากชุดความคิดนั้น และการส่งทหารขนาดใหญ่เช่นนั้น จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยยิ่งขึ้นที่บ้านของเรา” 

ไบเดน ยังย้ำอีกว่า ตอนนี้สงครามในอัฟกานิสถานจบลงแล้ว หลังจากทำสงครามมา 20 ปี และจะไม่ส่งลูกหลานชาวอเมริกันอีกรุ่นเข้าไปทำสงครามที่ควรจะจบลงไปนานแล้ว พร้อมกับให้คำมั่นด้วยว่า จะตามล่าผู้ก่อการร้ายทั่วโลก “สหรัฐฯ จะตามล่าผู้ก่อการร้ายในทุกที่ที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่ที่อยู่เมื่อ  20 ปีก่อน สำหรับกลุ่มไอซิส-เค เรายังไม่หมดเรื่องกับพวกคุณ”  

ขณะเดียวกัน เราจะใช้ยุทธศาสตร์ที่แม่นยำ มีเป้าหมาย แข็งกร้าว และไร้ความปรานี กับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่สนามบินคาบูลเมื่อสัปดาห์ก่อน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 170 ศพ และทหารอเมริกัน 13 นาย 

ทั้งนี้ ตามการเปิดเผยของนายไบเดน สหรัฐฯ ใช้งบประมาณในสงครามอัฟกันตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ร่วม 2 ล้านล้านเหรียญฯ ใช้เจ้าหน้าที่กว่า 800,000 นาย ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บ 20,744 นาย เสียชีวิต 2,461 นาย รวมถึง 13 นายล่าสุด. 

ขณะที่ พลเอก เคนเนธ แมคเคนซี หัวหน้ากองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ ยอมรับว่า กองทัพทิ้งอากาศยาน 73 ลำ กับยานพาหนะเกือบ 100 คัน รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ เอาไว้ในกรุงคาบูล ก่อนที่จะถอนกำลังทั้งหมดออกไป แต่ทั้งหมดใช้การไม่ได้แล้ว

สำหรับยุทโธปกรณ์ที่ถูกทิ้งไว้นั้น มีทั้งรถหุ้มเกราะต้านทานทุ่นระเบิดและการซุ่มโจมตี (MRAP) 70 คัน คันละประมาณ 1 ล้านเหรียญฯ รถฮัมวี่ 27 คัน ซึ่งเลิกใช้ไปแล้ว นอกจากนี้ ยังอากาศยาน 73 ลำ ซึ่งไม่มีวันที่บินได้อีกแล้ว 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า อากาศยานหลายชนิดถูกทิ้งไว้ในกรุงคาบูล ทั้งเฮลิคอปเตอร์ MD-530 ซึ่งใช้ในการสอดแนมและจู่โจมระยะใกล้ เครื่องบินจู่โจมเบา A-29 ราคาลำละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเหรียญฯ  ส่วนระบบป้องกันภัยระยะประชิด C-RAM ถูกทำให้ใช้การไม่ได้แล้ว