- เตรียมผลักดันเอเปกออกแถลงการณ์รับรองแผนงาน 4 ปี
- ปูทางเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก
- ในวันที่ 17-19 พ.ย.นี้ ก่อนสมาชิกเดินหน้าตามแผนงาน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีและระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก วันที่ 17–19 พ.ย.65 ซึ่งในส่วนประเด็นเศรษฐกิจสำคัญที่ไทยจะผลักดัน คือ การนำเสนอแผนงานการขับเคลื่อนเอเปกสู่การจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) เพื่อให้ที่ประชุมเห็นชอบแผนงานระยะ 4 ปี ระหว่างปี 66-69 ที่จะดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การจัดทำ FTAAP และเป็นหนึ่งในแถลงการณ์ที่จะประกาศในการประชุมครั้งนี้
สำหรับรายละเอียดในแผนงาน FTAAP ประกอบด้วยการรวบรวมประเด็นที่สมาชิกเอเปกมีความสนใจร่วมกัน ทั้งด้านการค้าดั้งเดิม การค้าใหม่ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากการเกิดวิกฤติ ผ่านกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างสมาชิก เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการจัดทำ FTAAP และมุ่งสู่เป้าหมายผลลัพธ์สำคัญของ FTAAP เช่น การขยายการค้าการลงทุนในภูมิภาค การลดอุปสรรคการค้าการลงทุนที่ไม่จำเป็น การเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของสมาชิกและการลดช่องว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน
“สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ การเอา 21 เขตเศรษฐกิจที่หลากหลายมาอยู่จุดนี้ได้ เป็นจุดตั้งต้นที่ดี เพราะแนวคิดการทำFTAAP เกิดมา 10 กว่าปีแล้ว ถ้า 21 เขตเห็นว่าเป็นประโยชน์ ก็จะคุยกันอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการทำตามแผนงาน4 ปี และในระหว่างที่ดำเนินการ สามารถปรับปรุงแก้ไขกิจกรรมได้ตลอดเวลา และหากสมาชิกเห็นว่า มีความก้าวหน้าที่เป็นประโยชน์ ก็อาจเริ่มการเจรจาเร็วขึ้นกว่า 4 ปี”
สำหรับแนวคิดการจัดทำ FTAAP เกิดจากข้อเสนอของสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (ABAC) ต่อผู้นำเอเปก เมื่อกว่า10 ปีที่ผ่านมา แต่การผลักดัน FTAAP ยังไม่คืบหน้ามากนัก ซึ่งการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกของไทยในปีนี้ เป็นช่วงที่สมาชิกเผชิญกับผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ทุกฝ่ายเห็นถึงความสำคัญของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ เพื่อเปิดเสรี ลดอุปสรรคการค้าการลงทุน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อและอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ โดยการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปกกับ ABAC ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เมื่อวันที่ 21 พ.ค.65 โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธานที่ประชุม เห็นพ้องว่าเอเปกจำเป็นต้องเร่งขับเคลื่อน FTAAP ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
