

- หลังนักบิน-ลูกเรือติดเชื้อ และบางส่วนกักตัวสังเกตอาการ
- CDC ยันยังไม่เสนอรัฐออกกฎบังคับฉีดวัคซีนก่อนขึ้นเครื่อง
- ขณะที่ทั่วโลกยกเลิกเที่ยวบินแล้วหลายพันเที่ยวบิน
เว็บไซต์ FlightAware.com ซึ่งให้บริการข้อมูลเส้นทางการบิน เผย เที่ยวบินเกือบ 5,000 เที่ยวในสหรัฐฯล่าช้ากว่ากำหนด ขณะที่อีก 1,180 เที่ยวต้องถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ทั่วโลก มีเที่ยวบินล่าช้าเกือบ 12,000 เที่ยวบิน และอีก 3,000 เที่ยวบินถูกยกเลิก เหตุยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่ยังคงเพิ่มต่อเนื่อง
สำหรับสายการบินที่รายงานถึงผลกระทบในครั้งนี้ ประกอบด้วย สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์, เจ็ทบลู แอร์เวย์, อเมริกัน แอร์ไลน์, อลาสก้า แอร์ไลน์, เดลต้า แอร์ไลน์ และเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ รวมถึงสายการบินต่างประเทศอีกหลายสายการบิน
ขณะที่สายการบินเดลตาแอร์ไลน์ และอลาสสกาแอร์ไลน์ของสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว เพราะสภาพอากาศแปรปรวน และยอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนพุ่งขึ้น โดยสายการบินเดลตา ได้ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 250 เที่ยวจากตารางบินทั้งหมด 4,133 เที่ยว และสายการบินอลาสกา ยกเลิกเที่ยวบินไป-กลับเมืองซีแอตเทิล 150 เที่ยว และคาดว่า จะยกเลิก หรือเลื่อนเที่ยวบินตลอดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา สายการบินเดลตา และอลาสกา ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 1,000 เที่ยว เนื่องจากทางสายการบินประสบปัญหาขาดแคลนพนักงาน เพราะนักบิน ลูกเรือบางส่วนติดเชื้อโควิด-19 และบางส่วนต้องกักตัว เพื่อสังเกตอาการ รวมถึงสภาพอากาศเลวร้ายในหลายพื้นที่ของประเทศ
และจากการแพร่ระบาดของโอมิครอน ทำให้ นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว แนะนำให้รัฐบาลพิจารณาบังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีน หากต้องการโดยสารเครื่องบินในประเทศ แต่ ดร.โรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้ CDC ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องการแนะนำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ออกกฏข้อบังคับให้ผู้โดยสารเที่ยวบินภายในประเทศต้องฉีดวัคซีน ขณะที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้คำตอบว่าสนับสนุนแนวทางการบังคับฉีดวัคซีนของนายแพทย์เฟาชีหรือไม่ ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา