

- ม.หอการค้าไทยชี้โพลล์ “ลอยกระทง” พ.ย.นี้ ในประเทศเงินสะพัด 9.7 พันล้านบาท
- โตเพิ่มขึ้น 6% ทำสถิติมากสุดในรอบ 5 ปี ได้แรงหนุนจาก 5 ปัจจัย
- ปี’66 ลุ้นเศรษฐกิจฟื้นจริงไตรมาส 2 ขอรัฐแก้ด่วนค่าครองชีพสูง เงินทุนช่วยธุรกิจรายย่อยฟื้นตัว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในประเทศเทศกาล “ลอยกระทง 2565” ซึ่งตรงกับวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 จะมีมูลค่าสูงประมาณ 9,700 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น6 % กลับมาเป็นบวกและมีมูลค่ามากที่สุดรอบ 5 ปี
ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ 76% ระบุจะไปลอยกระทงพร้อมทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกบ้าน เพื่อคลายความเครียด ร่วมประเพณี และขอพร ในจำนวนนี้มี 43.3% ยืนยันต้องใช้จ่ายเงินเพิ่มเนื่องจากราคาสินค้าแพงขึ้น และอีก 60.2% ปีนี้เทศกาลลอยกระทงเปิดประเทศแล้วจะสนุกกว่าปีผ่านมา

ส่วนคำตอบเรื่อง“สถานการณ์เศรษฐกิจและปัจจัยต่าง ๆ” ประชาชนมองเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวทิศทางดีขึ้น แตกต่างจากเดิมมองเศรษฐกิจฟื้นตัวครึ่งหลังปี 2566 แต่รอบนี้ส่วนใหญ่มองฟื้นจริงไตรมาส 2 ปี 2566 ตามพยากรณ์จะขยายตัว 3.5% เพิ่มขึ้นจากฐานปี 2565 เติบโตไม่เกิน 3% ปัจจัยที่จะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าดีกว่าปีนี้ มาจาก 5 ปัจจัยประกอบด้วย
1.กังวลกับโรคโควิดลดลงหลังรัฐบาลประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่น 2.ไทยประกาศเปิดประเทศสามารถเดินทางมากขึ้น 3.เกิดการใช้จ่ายในห้างต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 4.ราคาน้ำมันดิบโลกทรงตัวไม่เกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล 5.ค่าบาทอ่อนจูงใจการท่องเที่ยวของไทย ประเมินจะมีต่างชาติเข้ามาเดือนละ 1.5-2 ล้านคน รวมทั้งมีผลดีกับรายได้การส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลก
นายธนวรรธน์กล่าวว่า ขณะนี้ต้องการให้รัฐช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องที่ประชาชนยังคงวลอยู่ ต้องเร่งแก้ไขเรื่องค่าครองชีพปัจจุบันยังไม่สอดคล้องกับรายได้ การสร้างความเท่าเทียมกันของคนในสังคม การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนในประเทศ และช่วยเหลือเงินทุนสนับสนุนธุรกิจทุนน้อยให้สามารถกลับมาดำเนินกิจการต่อไปได้