

- ด้านสิ่งพิมพ์ส่งถึงบ้านอย่างหนังสือพิมพ์ ยอดตกวูบ
- หลังผู้บริโภคหวั่นจะพาโควิด-19 เข้าบ้าน บางส่วนยกเลิกชั่วคราว
- ชี้งานสัปดาห์หนังสือ ปรับตัวเปลี่ยนเป็นงานแบบออนไลน์แทน
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และในฐานะประธานคลัสเตอร์กลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ เปิดเผยว่า ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆมากมาย ส่งผลให้ความต้องการน้อยลง มีงานพิมพ์ของโรงพิมพ์ลดลง เช่น ผู้รับหนังสือพิมพ์หรือหนังสืออื่นแบบส่งถึงบ้านเกรงว่าจะมีเชื้อโควิด-19 ติดมาถึงบ้าน จึงยกเลิกสั่งชั่วคราว การอ่านหนังสือในรูปแบบของอีบุ๊ค (E-Books) หรือหนังสืออิเล็กทรอกนิกส์ เพิ่มมากขึ้นในหลากหลายหมวดหมู่ นอกจากนี้ งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติก็ต้องปรับเป็นแบบออนไลน์แทน เป็นต้น
นายเกรียงไกร กล่าวว่า ในทางตรงกันข้ามกลุ่มบรรจุภัณฑ์ทั้งที่เป็นกระดาษและภัณฑ์พลาสติกยืดหยุ่นสูง ขวดพลาสติกหัวกด หรือหัวฉีดสเปรย์สำหรับใช้ใส่เจลใส่แอลกอฮอล์ 70% ล้างมือ รวมทั้งถ้วย ชาม จาน กระดาษและวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ มีความต้องการใช้เติบโตอย่างมาก โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเติบโต 200-300% จนผู้ผลิตไม่สามารถรับงานได้ทัน เนื่องจากวิถีชีวิตของประชาชนเปลี่ยนไปจากมาตรการภาครัฐที่เน้นนโยบายSocial Distancing หรือการเว้นระยะห่างระหว่างกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ส่งผลให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทใช้แล้วทิ้งในกลุ่มสินค้าอาหารแบบส่งถึงบ้านเพิ่มมากขึ้น

รวมถึงภาคอุตสาหกรรมอาหารก็เช่นกันมีการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติกยืดหยุ่นสูงเพิ่มมากขึ้น เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างยี่ห้อมาม่า และอื่นๆ รวมถึงอาหารบรรจุซองต่างๆ ก็มีสัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกยืดหยุ่นสูงเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ขณะที่ขวดพลาสติกหัวกดหรือหัวฉีดสเปรย์ก็ขาดตลาด การนำเข้าจากจีนทำได้น้อย
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์มีงานล้นมือทำให้สัดส่วนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ต่ออุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์เริ่มเปลี่ยนแปลงมากขึ้นโดยอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เติบโตขึ้นอย่างมากโดยคาดว่าในอีก9เดือนข้างหน้าหากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงการใช้บรรจุภัณฑ์ก็จะยังคงเพิ่มขึ้นทำให้มูลค่าอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณ40,000-50,000ล้านบาทสัดส่วนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ต่อการพิมพ์จะเปลี่ยนแปลงจากประมาณ60%ต่อ40%เป็น65%ต่อ35%ได้ในสิ้นปีนี้โดยมูลค่าอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ประเมินว่าจะมีมูลค่าประมาณ240,000-250,000ล้านบาทขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์จะมีมูลค่าลดลงเหลือประมาณ50,000ล้านบาทรวมมูลค่ากลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ปีนี้คาดว่าจะยังคงอยู่ที่ประมาณ300,000ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา