“โกลด์แมนแซค” ลดเป้าจีดีพีไทย-อาเซียน



  • เหตุโควิดเดลตาระบาดหนักดันจำนวนผู้ติดเชื้อทะยาน
  • ขณะที่ฉีดวัคซีนล่าช้าและล้าหลังหลายประเทศในโลก
  • คาดไทยโตต่ำสุดแค่ 1.4% ส่วนอินโด 3.4% ฟิลิปปินส์ 4.4%

โกลด์แมนแซค ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจหลายประเทศอาเซียน ชี้จีดีพีไทยโตต่ำสุด หลังโควิด-19 ระบาดหนัก  

ซีเอ็นบีซีรายงานบทวิเคราะห์จากโกลด์แมนแซคว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ที่ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่วนฟิลิปปินส์ ยังไม่น่าจะผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะได้ในปีนี้ 

การที่โควิด-19 กลับมาระบาดหนักอีกครั้ง ส่งผลให้หลายประเทศออกมาตรการเข้มงวดมากขึ้นนั้น ในขณะนี้อัตราการฉีดวัคซีนให้ประชาชนยังล่าช้า และล้าหลังกว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ดังนั้น จึงได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ลงกว่า 100% จากคาดการณ์ก่อนหน้า ส่วนสิงคโปร์และไทย ปรับลดลงน้อยกว่า 

ทั้งนี้ โกลด์แมน ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อินโดนีเซีย เหลือขยายตัว 3.4% จากเดิมคาด 5.0%, มาเลเซียจาก ขายตัว 4.9% จาก 6.2%, ฟิลิปปินส์ ขยายตัว 4.4% จาก 5.8% ,  สิงคโปร์ ขยายตัว 6.8% จาก 7.1% และไทย ขยายตัว 1.4% จาก 2.1%  

นักเศรษฐศาสตร์โกลด์แมน ระบุว่า สิงคโปร์ได้ผ่อนคลายการใช้ข้อจำกัดต่างๆ เพื่อป้องกันการระบาดมาตั้งแต่เดือนมิ.ย.64 และคาดว่า มาเลเซีย จะดำเนินการเช่นเดียวกันในไตรมาส 4 ส่วนประเทศอื่นๆ จะดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจของสิงคโปร์ และมาเลเซีย จะได้รับผลดีจากการที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวได้ดีขึ้นในปีนี้ โดยมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์สุทธิ และมีแนวโน้มได้ประโยชน์จากการที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น 

แต่สำหรับไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่พึ่งพาการท่องเที่ยวมากกว่าการค้าโลก และยังมีตัวรองรับนโยบายที่จำกัด จะเป็นแรงกดดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้น้อยลง มีแนวโน้มกดดันเศรษฐกิจของทั้ง 3 ประเทศเติบโตน้อยลงกว่าที่คาดการณ์ไว้