

.นักลงทุนเทขายหุ้นที่ราคาพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้าเพื่อทำกำไร กดดันดัชนียืนแดนบวก
.จับตาการประชุมนโยบายการเงินคาดเฟดตรึงดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
.ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) นิวยอร์ก ดีขึ้น สูงกว่านักวิเคราะห์คาด
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,693.68
จุด ลดลง 213.43 จุด หรือ 0.61% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,461.09 จุด ลดลง 44.01 จุด หรือ 0.98% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 13,739.34 จุด ลดลง 186.71 จุด หรือ 1.34%
นักลงทุนขายทำกำไรหุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ รอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)สัปดาห์หน้า โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งความกังวลที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า “หากโอเปกพลัสยังคงลดการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่เอเชียมีความต้องการใช้น้ำมันจำนวนมาก เราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลก่อนถึงปี 2567” รายงานของแบงก์ ออฟ อเมริการะบุ
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์หน้า ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. ตลาดจับตาการเปิดเผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (dot plot) รวมทั้งตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ การว่างงาน และการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งจการแถลงข่าวพร้อมตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) สูงกว่าคาดในวันนี้ โดยดัชนีภาคการผลิตพุ่งขึ้น 21 จุด สู่ระดับ +1.9 ในเดือนก.ย.ซึ่งแสดงถึงภาวะขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก
สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -10.0 โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานปรับตัวลง
หุ้นของ Arm Holdings ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบชิปในเครือของซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป พุ่งขึ้นเป็นวันที่ 2 ในช่วงแรกของการเปิดตลาด โดยทะยานขึ้นมากกว่า 6% สู่ระดับ 67.72 ดอลลาร์ ส่งผลให้ ARM มีมูลค่าตลาดมากกว่า 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่เริ่มปรับลดลงจากแรงขายทำกำไร