
- กำไรกว่า 712 ล้านบาท
- มีหนี้เสียอยู่ที่ 3.96%
วันที่ 29 ก.ค.2564 นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนของปี 64 (ม.ค.-มิ.ย.) เอ็กซิมแบงก์ ช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งด้านการให้คำปรึกษาและบริการทางการเงินในวิกฤตโควิด-19 ได้ 9,400 ราย วงเงินรวมกว่า 67,000 ล้านบาท มีสินเชื่อคงค้าง 137,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,908 ล้านบาท หรือ 8.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อการค้า 33,772 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการลงทุน 103,637 ล้านบาทซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 14.09% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 712 ล้านบาท โดยสินเชื่อทั้งหมด ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบธุรกิจ 87,888 ล้านบาท โดยจำนวนนี้เป็นปริมาณธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เท่ากับ 31,516 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.86% มีอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ที่ 3.96%
ส่วนการการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ วงเงิน 96,381 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการขยายการส่งออกและการลงทุนไปกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) นอกจากนี้ยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาการชำระเงิน รวมถึงการพักชำระหนี้ การให้คำปรึกษาด้านต่าง ๆ ซึ่งณ เดือนมิ.ย. 64 ได้ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการประมาณ 9,400 ราย เป็นวงเงินรวมกว่า 67,000 ล้านบาท
“ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ สภาวะแวดล้อมทางธุรกิจยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เอ็กซิมแบงก์ ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือหรือซ่อมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้กลับมาแข็งแรงและเดินหน้าสร้างอุตสาหกรรมของประเทศที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ด้วยส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี และเสริมสมดุลการค้าและการลงทุนของไทยในตลาดหลักและตลาดใหม่ เพื่อรอโอกาสเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอีกครั้งในอนาคตอันใกล้”











