

วันที่ 10 มี.ค.2564 ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราชที่ผ่านมาว่า มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงโดยพรรครัฐบาล เป็นไปได้อย่างไรที่อยู่ดีๆพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์จะได้เสียงเพิ่มมาหมื่นกว่าเสียง ซึ่งผู้สมัครก็ยังไม่ได้ทำความดีอะไรเลย และยังไม่มีใครได้เข้าสภา แต่ขณะที่พรรคเสรีรวมไทยได้ทำงานมาโดยตลอด ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐต่างก็ซื้อเสียงทั้งนั้น ซื้อเสียงพี่น้องประชาชนตลอด รวมถึงพรรคพลังประชารัฐยังมีการขนคน ขนทัพลงไปช่วยกันซื้อเสียงเต็มที่ ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้วัดกันที่กำลังเงิน
“ผมมีข้อมูลแต่สามารถเอาผิดได้แค่ตัวเล็กๆ ในครั้งนี้จึงจะไม่มีการฟ้องร้องใดๆ เหมือนการเลือกตั้งที่จังหวัดลำปางและสมุทรปราการมีหลักฐานชัดเจนได้ยื่น กกต.ไปแล้วแต่เรื่องก็ยังเงียบเฉย ดังนั้นครั้งนี้ผมจะฟ้อง กกต.แทน ซึ่ง กกต.ไม่มีปัญญาในการฟ้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียง แต่ยังลงไปสร้างภาพ ปล่อยให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงขนาดนี้ ประธาน กกต.ยังด้านอยู่ พูดหลอกประชาชนไปเรื่อย ดังนั้นควรลาออกจากการเป็นประธาน กกต.”
เมื่อถามว่า การที่พลังประชารัฐ ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นเพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคลงพื้นที่ไปเอง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรเดินไม่ไหวอยู่แล้ว สุดท้ายขึ้นเวทีก็ยังต้องทำลิฟท์ให้ แล้วสุดท้ายก็ต้องมาทำลิฟท์ให้ในทำเนียบอีก แบบนี้จะไปช่วยอะไร แล้วอย่าบอกว่าพรรคพลังประชารัฐเดินเคาะประตูตามบ้านเพราะตนไม่เคยเห็น ระหว่างหาเสียงตนก็ได้เตือนประชาชนตลอดว่าเงิน 500 บาท กินไม่กี่วันก็หมดแล้ว ขอให้คิดกันให้เป็น แต่ผลออกมาพี่น้องประชาชนก็เลือกสิ่งที่ใกล้มือ ดังนั้นสองพรรคจะปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าไม่มีการซื้อเสียง เพราะตนมีหลักฐานอยู่
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบทเรียนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้คิด ว่าหากยังไม่คิดถึงอนาคตอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปจะหมดอนาคตในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีที่ยืน ถึงขั้นอาจแพ้พรรคเสรีรวมไทย ดังนั้นควรใคร่คิดให้ดี เพราะเร็วๆนี้จะมีการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดชุมพรและสงขลา ก็จะออกมาในรูปแบบเดียวกันอีก พรรคพลังประชารัฐก็จะสู้เต็มที่โดยไม่สนใจมารยาททางการเมือง แล้วประชาธิปัตย์จะสู้เขาได้หรือ สุดท้ายประชาธิปัตย์จะถูกพลังประชารัฐยึดไปทุกเขต
“ขอฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ คุณยังจะยอมเป็นเบี้ยให้เขาย่ำยีอยู่อีกหรอ ควรจะคิดถึงอนาคตของคนของคุณ หากผมเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผมจะลาออกจากรัฐบาล เพื่อให้ประยุทธ์ยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้ประชาธิปัตย์สามารถรักษาเก้าอี้ชุมพรและสงขลาไปได้ ผมจึงขอฝากไว้ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่ แต่ถ้ายังคิดไม่เป็นก็ช่วยไม่ได้ ที่เตือนนี่ผมมองว่าประชาธิปัตย์ยังเป็นแค่คนรับใช้เผด็จการ ไม่ได้เป็นเผด็จการเอง ยังพอพูดคุยกับพรรคเสรีรวมไทยได้ แต่ถ้าเป็นเผด็จการตัวจริงผมไม่คุยด้วย”