“เลขาฯยูเอ็น” ลั่นโลกต้องการวัคซีน 1.1 หมื่นล้านโดส



  • ฉีดให้ครอบคลุม 70% ของประชากรโลก
  • ถ้าต้องการหยุดโควิด-19 แพร่ระบาดให้ได้
  • แต่ขณะนี้การกระจายวัคซีนยังไม่เท่าเทียมกัน

เลขาธิการสหประชาชาติ  ลั่นหยุดวิกฤติโควิด-19 ต้องใช้วัคซีน 1.1 หมื่นล้านโดส ฉีดให้ครอบคลุมประชากรโลก 70%  

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยระหว่างพิธีเปิดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเมืองเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืน (High-level Political Forum on Sustainable Development : HLPF) เพื่อทบทวนการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2030 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ด้านขององค์การสหประชาชาติ ว่า การพัฒนาและนำวัคซีนโควิด-19 ไปใช้ รวมทั้งในส่วนที่ผ่านกลไกการกระจายวัคซีนอย่างเท่าเทียมทั่วโลก ทั้งในโครงการ ACT-Accelerator และโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ช่วยสร้างความหวังในการหยุดการแพร่ระบาดได้  

“การแสดงความตั้งใจที่จะบริจาควัคซีนและสนับสนุนเงินทุนเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เราต้องมีวัคซีนอย่างน้อย 11,000 ล้านโดส เพื่อฉีดให้ครอบคลุม 70% ของประชากรโลก และหยุดการแพร่ระบาดไวรัส”  

แต่การเข้าถึงเครื่องมือเหล่านี้ก็ยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะวัคซีน ทั้งในระดับโลก และในประเทศ ความเหลื่อมล้ำในการฉีดวัคซีนทั่วโลกได้คุกคามพวกเรา เพราะเมื่อไวรัสกลายพันธุ์ ก็สามารถแพร่เชื้อได้มากขึ้น หรืออาจรุนแรงยิ่งขึ้น  

อย่างไรก็ตาม โลกต้องมีแผนการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมในระดับโลก เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตวัคซีนโควิด-19 ให้ได้อีกอย่างน้อย 2 เท่า รวมถึงต้องสร้างความมั่นใจในการกระจายวัคซีนที่เท่าเทียมกันผ่านโครงการโคแวกซ์ การประสานงานและสนับสนุนงบประมาณ และถึงการสนับสนุนโครงการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติ