

- ลั่นมีเรื่องที่นายกฯควรทำ มากกว่ามาเป็นประธาน เปิดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย
- แนะตัวอย่าง ตรวจเยี่ยมการระบาดของโรคโควิดระลอกใหม่ เยี่ยมคนภาคใต้หลังนํ้าท่วมใหญ่
- ย้ำหากจะต่อสัมปทานอีก 40 ปี ต้องเตรียมตอบคำถาม 6 ข้อให้ได้
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เตรียมเป็นประธานเปิดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว-สีทอง เที่ยวปฐมฤกษ์ ในวันที่ 16 ธ.ค.2563 นี้โดยจะเปิดรถไฟฟ้าสายสีทองที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไปยังสถานีคลองสาน โดยจะทำให้ประชาชนสามารถเชื่อมการเดินทาง 3 จังหวัด คือ ปทุมธานี กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเกิดขึ้นในสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นโครงการที่ดี และเป็นประโยชน์ แต่จะต้องไม่ใช่ การสร้างภาพ เพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ ให้มีการต่อขยายสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้กับเอกชนรายเดิมออกไปอีก 40 ปี โดยไม่เปิดให้มีการประมูลแข่งขัน อย่างเป็นธรรม
“งานนี้ผมขอยํ้าอีกครั้งหนึ่งว่า กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับการเปิดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวครบตลอดเส้นทาง ผ่าน 3 จังหวัด แม้ในขณะนี้ยังไม่ได้ต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี รถไฟฟ้าก็สามารถวิ่งผ่าน 3 จังหวัดได้ แต่ที่น่าจับตามองคือ พล.อ.ประยุทธ์ ชอบเป็นประธาน เปิดการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย มาไม่ตำ่กว่า 3 ครั้งในปีนี้ ทั้งๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีภารกิจสำคัญในช่วงนี้ที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งควรจะไปเยี่ยมประชาชน แต่กลับไม่ไป เช่น ควรไปตรวจเยี่ยมการระบาดของโรคโควิดระลอกใหม่ ที่กระทบการท่องเที่ยวอย่างหนักในทางภาคเหนือที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ รวมไปถึงควรไปเยี่ยมคนภาคใต้ เพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูหลังนํ้าท่วมใหญ่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่สนใจที่จะไปเยี่ยมคนจนในต่างจังหวัด ทั้งภาคเหนือ และภาคใต้ แต่กลับใช้เวลามาเปิดรถไฟฟ้าให้เจ้าสัว ในกรุงเทพฯ” นายยุทธพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้การที่จะให้ต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไป อีก 40 ปี จะต้องตอบคำถาม เหล่านี้ให้ได้ คือ 1.ทำไมต้องใช้ คำสั่ง ม.44 มาเอื้อประโยชน์ในการต่อสัปทานให้กับเอกชนรายเดียว 2.มติของสภาผู้แทนราษฎร ที่ไม่ให้ต่อขยายสัมปทานจนกว่า สัมปทานจะหมด และเปิดให้มีการประมูลแข่งขันอย่างเป็นธรรม ทำไม พล.ประยุทธ์ ไม่เคารพมติของสภาฯ 3.ทำไมไม่ให้ บริษัท BTS เข้า พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน ปี 2562 และรัฐบาลมายกเว้น พ.ร.บ.ร่วมทุนฯให้บริษัท BTS ทำไม
4.ค่าโดยสารที่แพงถึง 65 บาท ซึ่งคนกรุงเทพฯ มีรายได้ขั้นตํ่าวันละ 331 บาท 5.ในเมื่อเหลืออายุสัมปทาน อีก 10 ปีทำไม มาเร่งรีบใช้ ม.44 ต่อขยายสัมปทาน ทำไมไม่ใช้กฎหมายปกติดำเนินการ และ 6.กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นกระทรวงหลักในการบริหารจัดการด้านการคมนาคมขนส่ง ออกมาคัดค้านเรื่องค่าโดยสาร ทำไมไม่ฟัง
“ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังดึงดันที่จะต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี โดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน และแม้แต่กระทรวงคมนาคม ก็ยังออกมาคัดค้าน ผมเตรียมเสนอเรื่องให้พรรคเพื่อไทย เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้เลย เพราะมีข้อมูลพร้อมอยู่แล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลจะควํ่าเอา เพราะพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคภูมิใจไทย คงลำบากใจในการยกมือให้รัฐบาลอย่างแน่นอน” นายยุทธพงศ์ กล่าว