- ยักษ์ใหญ่จัดไมซ์โลก “เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ” ดึงเอกชนไทย 8 บริษัท
- ร่วมเวทีแสดงสินค้า “K 2022” ในเมืองดุสเซลดอร์ฟ เยอรมัน
- ลุยแลกเปลี่ยนการค้า 100 ประเทศ มีผู้เข้าร่วมกว่า 2 แสนราย
- พร้อมเร่งขับเคลื่อนความก้าวหน้านวัตกรรมอุตสาหกรรมพลาสติก ยาง
- สอดรับเป้าหมายปี’66 คาดพลาสติกไทยโตทะลุ 40%
นายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย เปิดเผยว่า พร้อมจะร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยด้านการจัดงานไมซ์ระดับโลก ทาง บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ ผู้นำธุรกิจจัดแสดงสินค้าระดับนานาชาติ จัดงานสัมมนาล่าสุดเตรียมจัดงานมหกรรมนิทรรศการแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรมพลาสติกและยางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในงาน “K 2022” ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทุก ๆ 3 ปี โดยจะฉลองครบรอบวาระ 70 ปีแห่งความสำเร็จและกำหนดจัดช่วงปลายปีระหว่าง 19 – 26 ตุลาคม 2565 ที่เมืองดุสเซลดอร์ฟเยอรมนี ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่บรรดาผู้ประกอบการจะได้เปิดโลกทัศน์ใหม่สำหรับตลาดการลงทุน รวมถึงได้เรียนรู้และนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ได้การยอมรับระดับสากลกลับมาใช้ในประเทศไทย
โดยคาดการณ์จะมีผู้เข้าชมจากทั่วโลก 100 ประเทศ ไม่ต่ำกว่า 200,000 ราย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกและยาง รวมถึงนักพัฒนา นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตจากอุตสาหกรรมผู้ใช้งาน อาทิยานยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ ตลอดจนถึงยานอวกาศและภาคการก่อสร้าง
นายเกอร์นอท กล่าวว่าได้เตรียมความพร้อมเปิดตัวงานมหกรรม “K 2022”
เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ โดยจัดงานสัมมนาผู้ประกอบการ “K 2022 Presentation” ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิทเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายคลัสเตอร์ธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
ให้ได้ร่วมอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง ไม่เพียงมุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและฟื้นฟูเศรษฐกิจเพียง แต่ยังคำนึงถึงความต้องการที่รับกับพฤติกรรม และปัจจัยทางชีวภาพอันจะส่งผลกระทบต่อสังคมโลก ซึ่งสอดคล้องต่อการยกระดับความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG ECONOMY ของไทยนำเสนอเมกะเทรนด์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมแห่งโลกอนาคต 3 ประการ ประกอบด้วย
เรื่องที่ 1 เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) หรือกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ การจัดแสดงเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการแปรรูปและการรีไซเคิล พื้นที่สำหรับการนำเสนอภายใต้แนวคิด“Plastics shape the Future” ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของรูปแบบพลาสติกที่หลากหลายที่สามารถตอบโจทย์อุตสาหกรรมในอนาคต รวมถึงยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ร่วมงานได้แลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อการรีไซเคิลพลาสติกพลาสติกชีวภาพ และวัสดุทางเลือก
เรื่องที่ 2 เศรษฐกิจยุคดิจิทัล (Digitalisation) เช่น จัดแสดงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (AR) แอปพลิเคชันแนะนำเกี่ยวกับดิจิทัลโซลูชั่นเพื่อการดำเนินธุรกิจ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจัดแสดงสินค้าเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่นำเสนอกระบวนการผลิตที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการ เรื่องที่ 3 ป้องกันวิกฤตสภาพภูมิอากาศ (Climate Protection)
นายถนัดกิจ เตชานุกูลชัย นายกสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกโลกที่ยังคงมีอุปสงค์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าตลาดการส่งออกปี 2564 มูลค่า 128,016.51 ล้านบาทเพิ่มสูงขึ้นกว่า 3.14 % ทำให้เห็นกลุ่มอุตสาหกรรมถึงสัญญานเชิงบวก
ปี 2565 งาน K 2022 มีบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับการจัดแสดงสินค้าจะเข้าร่วมกว่า 3,000 รายจากทั่วโลก 61 ประเทศ เช่น เยอรมนี อิตาลี สหรัฐอเมริกา อินเดีย เกาหลีใต้ จีน ส่วนไทยจะมีบริษัทนำสินค้าไปจัดแสดงร่วมเจรจาการค้าขาย 8 ราย ได้แก่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC บริษัท ไออาร์พีซีจำกัด (มหาชน) หรือ IRPC บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด บริษัท เอ.เอฟ.ซุปเปอร์เซลล์ จำกัด บริษัท ซี เอส รับเบอร์ อินดัสทรี่ จำกัด บริษัท แล็บ เทค เอนจิเนียริ่ง จำกัด บริษัท มหาธานีอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท เอสเอ็มซี คอร์ปอเรชั่นจำกัด
และการที่ประเทศไทยมีส่วนร่วมในงาน K 2022 ครั้งนี้ จะช่วยสร้างโอกาสการขยายตลาดระดับภูมิภาค และเป็นเวทีสำคัญของภาคธุรกิจจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรม เทคโนโลยี เครื่องจักร รวมถึงกระบวนการออกแบบการผลิตและผลิตภัณฑ์พลาสติกและยาง จากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายจากนานาประเทศทั่วโลกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ซึ่งไทยมีฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมีบทบาทในการเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
ขณะเดียวก็มีโอกาสได้ส่งเสริมกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับอาหาร วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และพลาสติกชีวภาพ ให้เป็นโปรดักส์แชมเปียน ตั้งเป้าปี 2566 ทำยอดส่งออกเติบโตสูงขึ้น 40 % ซึ่งไทยมีศักยภาพการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกโดยเฉพาะพลาสติกชีวภาพ หรือไบโอพลาสติกที่ปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกควบคู่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสีเขียวสร้างความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมควบคู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
