มีหลายคนได้ให้นิยามของ “การเดินทาง” ไว้มากมาย แต่ความหมายหลักของกาาเดินทางคือ การเคลื่อนจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์การเดินทางนั้นที่ต่างกันไป อาทิ ท่องเที่ยว กลับบ้าน ไปทำงาน หาประสบการณ์ให้ชีวิต ฯลฯ
ซึ่งเชื่อว่าการเดินทางไปไหนก็ตาม ในแต่ละนะครั้ง จะเป็นเหมือนการบันทึกความทรงจำให้แกเรา อาจมีทั้งเรื่องราวที่ดี หรือเป็นเรื่องแย่ ก็มีปะปนกันไปถือเป็นเรื่องปกติ
แน่นอนก่อนการเกิดสถานการณ์ “ไวรัสร้ายเปลี่ยนโลก” อย่างวิกฤตการแพร่ระบายของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ก็ส่งผลให้หลายสิ่งอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่คาดคิด
หนึ่งในนั้นคือเรื่องการเดินทาง ที่ผู้คนต้องงดการใกล้ชิดกัน มีการเว้นระยะห่างทางสังคม เดินทางไปพบปะกันไม่ได้เนื่องด้วยต้องป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสร้าย
โดยหนึ่งในการเดินทางที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงก่อนโควิด-19 เล่นงาน คือ “การเดินทางโดยเครื่องบินโดยสาร” ซึ่งเห็นได้จากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการที่ท่าอากาศยาน หรือสนามบินต่างๆ อาทิเช่น ท่าอากาศยานดอนเมืองมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
แน่นอนการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการ ก็นำมาซึ่งการเดินทางมายังจุดหมาย ณ ที่สนามบิน มีปริมาณรถที่หนาแน่น มีทั้งใช้รถยนต์ส่วนตัว รถยนต์สาธารณะ
โดยจากปัญหาในจุดนี้เอง ทำให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เล็งเห็นถึงปัญหา และเร่งแก้ไขโดยปิ๊งไอเดียเนรมิต “Taxi Drop Lane” เพื่อเพิ่มช่องจราจรสำหรับแท็กซี่โดยเฉพาะขึ้นมา
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทอท. เดินหน้าพัฒนาสนามบินทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร
ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ในส่วนของสนามบินดอนเมืองมีปริมาณผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณหน้าชานชาลาขาออก ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่ หรือมากกว่า 50% ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ และรถแท็กซี่
นายนิตินัย กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติจากโควิด-19 ทอท.จึงวางแผนก่อสร้าง“Taxi Drop Lane” เพิ่มช่องจราจรสำหรับแท็กซี่โดยเฉพาะ ไว้จอดส่งผู้โดยสาร จำนวน 2 เลน และติดตั้ง “ทางลาดเลื่อนอัตโนมัติ” พร้อมกล้องวงจรปิดและระบบปรับอากาศ มีระยะทาง 200 เมตร เชื่อมจาก Taxi Drop Lane เข้าสู่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เพื่อลดความแออัดของการจราจรบริเวณชานชาลาขาออก ชั้น 3 และยังช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น โดย ทอม.จะดำเนินการก่อสร้าง Taxi Drop Lane จำนวน 2 จุด คือ ด้านทิศเหนือ และทิศใต้ ของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2564 นี้
ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) กล่าวว่าถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง TAXI Drop Lane บริเวณอาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมืองว่า ทอท. ได้ดำเนินการประกวดราคาแล้วเมื่อเดือน ม.ค.2564 ที่ผ่านมา ราคากลางอยู่ที่ประมาณ 51.8 ล้านบาท ผลปรากฏว่า บริษัท ศักดิ์ทองพูล จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล โดยเสนอราคาต่ำสุดและต่ำกว่าราคากลาง โดยขณะนี้ได้ลงนามในสัญญาจ้างไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะเข้าพื้นที่เริ่มงานก่อสร้างได้ภายในเดือน มี.ค. นี้ ซึ่งผู้รับเหมาจะใช้เวลาในการก่อสร้างรวม 9 เดือน และคาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค. 2564
