

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ม.ค.64) ที่รัฐสภา น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือ กาละแม เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่กำลังเป็นกระแสข่าวอยู่ในเวลานี้ กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎรโดยชี้แจงถึงการเลื่อนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคม.ว่า ในวันนี้ (28 ม.ค.) ได้แจ้งต่อ บก.ปคม. แล้วว่า ขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากติดการชี้แจงต่อกรรมาธิการ ยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่ได้รับสายโทรศัพท์ใดๆ แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่เพิกเฉยใดๆ ทั้งสิ้นเพราะตั้งแต่ได้รับหมายเรียก ก็ได้มอบหมายให้ทนายความคอยประสานงานตลอดเวลา
น.ส.พัชรศรี กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุผลที่เลือกมาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ แทนการไปรับทราบข้อกล่าวหานั้น ตนอยากมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง ซึ่งข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นทนายความ และตำรวจ ได้พูดคุยติดต่อกันอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่า บก.ปคม. ได้แจ้งวันรับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 ก.พ.นี้
“ยอมรับว่าที่ทำไป ตนขาดความรอบคอบ ไม่ทราบการแก้ไขหลักเกณฑ์การโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ อย. มีการแก้ไขในปี 2561 และไม่ทราบมาก่อนว่า การนำความรู้สึกของผู้บริโภคมารีวิวต่อ ไม่สามารถทำได้ และยินดีร่วมมือกับอย. และ สคบ. ในการประกอบการว่า สิ่งใดผู้ประกอบการควรทำ และไม่ควรทำในการโฆษณา และอยากให้ อย. และสคบ. เป็นพี่เลี้ยงให้กับ ผู้ประกอบการ ให้คำปรึกษาในการโฆษณา ประกอบผลการวิจัยของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง และไม่ให้เกิดการกระทำผิดขึ้นอีก ดิฉันยังยืนยันว่าจะประกอบธุรกิจนี้ต่อ แต่จะไปปรับปรุงองค์กร พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ดิฉันมีเจตนาที่ดี เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี และจะไม่มีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงอีก เพราะตอนนี้ทราบแล้ว สิ่งใดโฆษณาได้ หรือไม่ได้” น.ส.พัชรศรีกล่าว

ขณะที่นายนิติธร แก้วโต ทนายความของ น.ส.พัชรศรี กล่าวยืนยันว่า จะไปรับทราบข้อกล่าวหา ก่อนวันที่ 9 ก.พ.นี้ตามที่ บก.ปคม.นัดหมาย โดยจะนัดวันและเวลาที่ตำรวจ โดย น.ส.พัชรศรี และตนเอง สะดวกตรงกัน เพื่อเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ยอมรับว่าได้รับหมายเรียกของตำรวจ ก่อนจดหมายเชิญชี้แจงจากกรรมาธิการ แต่ที่เลือกมาชี้แจงต่อกรรมาธิการก่อนนั้น เพื่อให้รับทราบรายละเอียดของ สคบ. และ อย. ก่อนกำหนดแนวทางทางคดี หลังไปรับทราบข้อกล่าวหา
“ยืนยันว่า น.ส.พัชรศรี ไม่มีเจตนาหลอกหลวง แต่ขาดความรอบคอบในการพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาสรรพคุณเสริมอาหาร และตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อาจต้องเชิญลูกค้าที่หายป่วยจาก โควิด-19 มายืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้ง” นายนิติธร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการชี้แจงต่อ กมธ. ในวันนี้ (28 ม.ค.) กมธ. ได้มีการเชิญนายยิ่งยง ยอดบัวงามพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ถั่งเช่ามาให้ข้อมูล โดยนายยิ่งยง ได้มอบหมายให้ผู้แทนมาชี้แจงแทน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสรรพคุณถั่งเช่า อาทิ อย. สคบ. และคณะกรรมการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น โดยทาง กมธ. เห็นว่า ประชาชน ติดตามผลิตภัณฑ์ และตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์จากดารา นักแสดง รวมถึงบุคคลสาธารณะ ดังนั้นก่อนที่ผู้ประกอบการจะโฆษณาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้าไปตรวจสอบเนื้อหาก่อน