วันนี้ (21 ก.พ.66) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้เร่งรัดให้นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ และ น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง ชี้แจงถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขณะเดียวกันต้องรอข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่จัดส่งให้กระทรวงการคลัง ประกอบการพิจารณาด้วย
“ทั้งนี้หากยึดตามข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยจรรยาของผู้บริหารกระทรวงคลัง เพื่อป้องกันการขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ.2553 ก็ถือว่าครบกำหนด 30 วัน ที่ต้องส่งรายงาน ดังนั้นจึงได้เร่งให้2 อธิบดี รายงานข้อมูลการซื้อขายหุ้นบางจากดังกล่าว”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การได้มาของหุ้นบางจากของ 2 อธิบดี ในฐานตัวแทนจากกระทรวงการคลังนั้น เป็นไปตามมติคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่ให้มีการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อกรรมการหรือพนักงาน (Employee Stock Option Program :ESOP) โดยกรรมการให้คนละ 300,000 หุ้น ส่วนพนักงานจัดสรรให้ตามผลการประเมินงาน ซึ่งบางจากได้ดำเนินการจัดสรรหุ้นให้กรรมการและพนักงานบางจาก เมื่อเดือน ธ.ค.2565 และหุ้นจะเข้าบัญชีหลักทรัพย์(พอร์ต) ในเดือน ม.ค.2566
โดย น.ส.กุลยา ได้ชำระเงินซื้อหุ้นบางจากจำนวน 300,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 28.14 บาท ไปเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 และขายหุ้นไปเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2566 ในราคาหุ้นละ 34-35 บาท
ส่วนนายจำเริญ ได้มีการซื้อขายหุ้น 4 ครั้ง โดยครั้งแรกซื้อหุ้นเป็นจำนวน 200,000 หุ้น วันที่ 22 ธ.ค.2565 ราคาหุ้นละ 31 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 100,000 หุ้น ในวันที่ 22 ธ.ค.2565 ราคาหุ้นละ 30.75 บาท ครั้งที่ 3 จำนวน 300,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 28.14 บาท ส่วนครั้งที่ 4 เป็นการขายหุ้น จำนวน 150,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 34.75 บาท
ทั้งนี้ สำหรับการส่งตัวแทนจากกระทรวงการคลังไปเป็นกรรมการ บางจาก 2 คนนั้น เป็นผลจากกระทรวงการคลัง ถือหุ้น 4.76% ซึ่งเป็นการถือหุ้นทางตรง ส่วนการถือหุ้นทางอ้อมผ่านกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 และ 2 กองละ 9.92% สิริรวมกระทรวงการคลังถือห้นในสัดส่วน 24.58% ดังนั้งจึงจำเป็นต้องส่งตัวแทนจากกระทรวงการคลังไปเป็นตัวแทนกรรมการบางจากดังกล่าว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะบางจากเป็นธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายของรัฐบาล
