“อาคม” ขอเวลาอุดช่องโหว่ลดโกงร้านค้าทุจริต ก่อนเดินหน้า “คนละครึ่งเฟส 3”



  • หลังพบร้านค้าทุจริตหลายร้อยร้านค้า
  • เตรียมประเมินผลลัพธ์ทุกโครงการก่อน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า สำหรับการดำเนินโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” หลังจากโครงการคนละครึ่งเฟส 2 จะสิ้นสุดระยะเวลาโครงการในวันที่ 31 มี.ค.2564 นั้น  อยากจะจัดการเรื่องร้านค้าทุจริตให้เรียบร้อยก่อน โดยตอนนี้มีร้านค้าที่ถูกดำเนินคดีและถูกจับตาจากภาครัฐที่ส่อจะเกิดการทุจริตอยู่จำนวนหลายร้อยร้านค้า ซึ่งในเรื่องนี้กระทรวงการคลังอยากจะหาวิธีทำให้รัดกุมมากขึ้นก่อนจะเปิดโครงการคนละครึ่งในระยะที่ 3 ต่อไป  

นอกจากนี้กระทรวงการคลังจะต้องดูตัวเลขการบริโภคการใช้จ่ายไตรมาส 1และไตรมาส 2 ประกอบด้วยหลังจากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆออกมา อาทิ คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ เป็นต้น โดยรัฐบาลจะมีการประเมินผลแยกแต่ละโครงการ เนื่องจากบางโครงการมีวิธีการใช้เงินต่างกัน และประเมินผลลัพธ์รวมทุกโครงการด้วยว่าส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด  

“วิธีการใช้เงินในโครงการคนละครึ่งและเราชนะ มีความแตกต่างกัน โดยกรณี โครงการเราชนะ รัฐบาลจะโอนเงินให้สัปดาห์ละ 1,000 บาท ซึ่งส่วนมากประชาชนจะใช้กับร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าโชห่วย  แต่ถ้าเป็นคนละครึ่ง ประชาชนจะใช้จ่ายร้านค้าที่ขายอาหารและเครื่องดื่มเป็นหลัก เพราะส่วนมากมักจะไปกันเป็นกลุ่มก็จะสามารถแชร์กันได้ ”  

สำหรับวงเงินที่จะนำมาใช้ในดำเนินโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” นั้นยังมีงบประมาณเหลืออยู่เพียงพอที่จะใช้ดำเนินโครงการได้ โดยจะโยกงบมาจากพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของงบฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเหลือประมาณ 200,000 ล้านบาท มาใส่ในแผนเยียวยาผลกระทบโควิด-19 เพื่อดำเนินการในโครงการนี้ในช่วงไตรมาส 3

“ก่อนจะออกโครงการใหม่จะต้องมีการประเมินให้รอบคอบกว่าโครงการที่แล้ว ขอให้รอนิดนึงเพราะอยากให้โครงการรัฐสิ้นสุดทุกโครงการก่อน เพื่อจะดูได้ว่ามาตรการที่ออกไปดีต่อเศรษฐกิจหรือไม่ แต่มันมีผลแน่นอน และประชาชนทั่วไปก็มีเสียงเรียกร้องมาจำนวนมาก แต่ตอนนี้ยังติดตรงที่ยังมีคนใช้มาตรการรัฐเอาเปรียบคนอื่น มันเสียความรู้สึก จึงต้องทำให้รัดกุมมากขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ชอบและอยากให้เกิด แต่มีคนส่วนน้อยเข้ามาเอาเปรียบ”