

- หลังอนุมัติสินเชื่อใส่เงินลงสู่เศรษฐกิจสมุยกว่า 2,000 ล้านบาท
- ให้โรงแรมที่ชำระหนี้ไม่ได้ใช้วอชเชอร์มาจ่ายดอกเบี้ยแทน50%
- ชวนเที่ยวสมุยสิ้นปีนี้จัดแพคเกจตั๋วเครื่องบินที่พักราคาถูก
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ในต้นปีหน้าธนาคารออมสินเตรียมพิจารณาต่อยอดโครงการออมสินเพื่อสมุย ไปยังเมืองรองของไทยเพื่อ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการในระยะที่ 2 และยังเป็นการจุดกระแสการท่องเที่ยว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในจังหวัดนั้นๆ หลังจากวันนี้(9ธ.ค.) ได้เปิดโครงการสมุยโมเดลเพื่อช่วยเหลือธุรกิจในสมุยแล้ว ซึ่งมีการปรับโครงสร้างหนี้ การฝึกอาชีพ และการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยล่าสุดธนาคารออมสินอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 2,500 ราย มีเม็ดเงินลงสู่ระบบรวม 2,000 ล้านบาท

สำหรับสินเชื่อที่อนุมัติแล้วทั้งหมด 2,500 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับวงเงินเสริมสภาพคล่อง 2,000 ราย วงเงิน 1,500 ล้านบาท และผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือด้านภาระหนี้ จำนวน 500 ราย มูลหนี้รวม 446 ล้านบาท
นอกจากนี้ธนาคารออมสินได้โอนเงินสินเชื่อเพื่อสภาพคล่องลูกค้าทั้งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ภาคการท่องเที่ยว สินเชื่อซอฟต์โลนสำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด สินเชื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจท่องเที่ยว SAMUI MODEL และสินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน จำนวนรวมกัน 194 ราย โดยลูกค้าเอสเอ็มอีรายใหญ่ที่เข้ามารีไฟแนนซ์ นั้นมีการขอสินเชื่อสูงสุดถึง 300 ล้านบาท

“ในจำนวนสินเชื่อที่เราปล่อยนั้น เป็นสินเชื่อรายย่อย ที่ธนาคารให้สินเชื่อวงเงิน 10, 000 -50, 000 บาทด้วย โดยอนุมัติได้ทันที ล่าสุด มีการอนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 1.86 พันราย วงเงิน 176 ล้านบาท รวมถึง ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ลูกค้าเดิมกว่า 500 ราย ที่มีปัญหาชำระไม่ได้ตามเงื่อนไขเดิมเมื่อครบกำหนดพักหนี้ ภาระหนี้รวม 446 ล้านบาท และการไกล่เกลี่ยลูกหนี้หลังการฟ้องที่กรมบังคับคดีอีกจำนวนกว่า 30 ราย ภาระหนี้รวม 2.6 ล้านบาท”
สำหรับลูกค้ากลุ่มโรงแรมนั้น ธนาคารจะเข้าไปช่วยเติมสภาพคล่อง ยืดหนี้ ลดภาระดอกเบี้ยให้ โดยสภาพคล่องที่เติมจะพักเงินต้น 1 ปี คิดดอกเบี้ย 3% ต่อปี ในปีแรกให้ชำระเพียง 1% ส่วนที่เหลือให้เริ่มชำระในปี 2565 เพราะเชื่อว่า ในปี 2565 จะชำระได้
ทั้งนี้ สำหรับการอัตราดอกเบี้ยที่ลดให้นั้น จะลดให้ 50%เป็นเวลา 1 ปี โดย ธนาคารจะให้ลูกค้าออกเป็นบัตรสมนาคุณ (วอยเชอร์) แทนการชำระหนี้ ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระผู้ประกอบการได้ โดยธนาคารออมสินจะนำวอยเชอร์ไปทำการตลาดให้กับคู่ค้าและลูกค้าของธนาคารออมสินเพื่อเชิญชวนมาเที่ยวสมุยต่อ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเราช่วยเหลือมากกว่าธนาคารอื่นเพราะมีการทำการตลาดให้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ออมสินจะออกโครงการออมสินชวนเที่ยวสมุยภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งต่อเนื่องมาจากโครงการออมสินเพื่อสมุย เพื่อปลุกกระแสท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างหารือกับสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ เพื่อขอตั๋วเที่ยวบินราคาถูก
ให้แก่ลูกค้าของออมสินเพื่อมาท่องเที่ยวที่สมุย ซึ่งธนาคารออมสินจะจัดทำเป็นเพคเกจทั้งตั๋วเครื่องบินรวมกับที่พัก
“สมุยโมเดล เกิดจากเมื่อสองเดือนที่แล้วผมมาเที่ยวแถวเฉวง แล้วเงียบมากไม่มีนักท่องเที่ยว โรงแรม และร้านค้าปิดทำการหมด จึงเกิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเพราะที่เกาะสมุยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถึง 80-90% ในขณะที่นักท่องเที่ยวไทยมีแค่ 10% เท่านั้น ดังนั้นจึงคิดโครงการนี้ขึ้นมากระตุ้นเศรฐกิจและช่วยเหลือด้านการเงินแบบครบวงจรในสมุย”
นายวิรัช พงศ์ฉบับนภา เจ้าของ Pavilion samui villas &resort กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือมีทั้งหมด 3 ข้อ ได้แก่ 1.ให้ขยายการเข้าสู่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)จาก 3เดือน เป็น 1 ปี เพื่อไม่ให้เข้าสู่การติดเครดิตบูโร 2.พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 1 ปี และ3.ขยายระยะเวลาให้สินเชื่อบ้านจากเดิม 10 ปี เป็น 20 ปี

ส่วนวิธีเชิงรุกคือการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาพักเพื่อท่องเที่ยวที่ไทย จะต้องส่งไปตรวจโควิด-19 โดยใช้เทคนิค real-time reverse-transcriptase polymerase chain reaction (rRT-PCR) คือการตรวจหาสารพันธุกรรมว่ามีการเรียงตัวเหมือนโควิด-19 หรือไม่ ก่อนจะให้วีซ่าแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งหลังผลออกแล้วถ้าไม่ติด-19 จะต้องเดินทางภายใน 3 วัน
นอกจากนี้ในเรื่องการเสริมสภาพคล่องยังเสนอให้จัดตั้งธนาคารท่องเที่ยวขึ้นมา เพื่อปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน)ให้กับธุรกิจท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
“เดิมโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวปีละประมาณ 50,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น อังกฤษ เยอรมัน เป็นต้น แต่ปัจจบุันหลังจากเกิดโควิด-19 อัตราเข้าพักเป็นศูนย์ ส่วนคนไทยมีไม่ถึง 5% ของจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แม้ปัจจุบันโรงแรมจะลดราคาที่พักถึง 70% แต่คนก็ยังเข้าพักน้อย”

ดังนั้นการที่ออมสินเข้ามาทำโครงการนี้ถือว่าช่วยเหลือธุรกิจอย่างมาก ซึ่งตอนนี้ทางโรงแรมขอสินเชื่อไปแล้ว 10 ล้านบาท คาดว่าถ้าได้เงินก้อนนี้จะทำให้สามารถประคองธุรกิจไปได้อีก 6 เดือน ซึ่งทางออมสินจะทำการตลาดให้ด้วย ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐบาลนั้นเพิ่มอัตราเข้าพักแค่1-2%เท่านั้น