“อนุทิน” แอ่นอกรับ ประเมินหลังเทศกาล “สงกรานต์” ผ่านพ้น ยอดติดเชื้อโควิดพุ่งแน่! ลั่นเชื่อมั่น สธ.รับมือไหว



  • แนะประชาชนให้ความร่วมมือ ทำตามประเพณีและวัฒนธรรมที่ดี โดยสามารถรดน้ำได้โดยไม่ต้องสาด
  • เผย สธ.เป็นห่วงกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เร่งเข้าไปฉีดวัคซีนโดยเร็ว
  • เชื่อมั่นวัคซีนที่ฉีดให้ประชาชนจะทำหน้าที่ของมันได้ดี เมื่อเกิดการติดเชื้อ ต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการห้ามเล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์ช่วงนี้ เนื่องด้วยขณะนี้ประเทศไทย มีการผ่อนคลายมาตรการออกมาเยอะ และธรรมชาติของการติดเชื้อโควิด-19 คือการสัมผัส รวมกลุ่มใกล้ชิด และใช้ภาชนะร่วมกัน การสาดน้ำแบบสมัยก่อนจะมีการนำมือลงไปกวนแป้งดินสอพอง ใช้มือประแป้ง ใช้ขันใส่น้ำร่วมกัน จะไปบอกว่าให้ใส่ถุงมือเล่นน้ำสงกรานต์ก็เป็นไม่ได้อยู่แล้ว จึงขอความร่วมมือให้ทำตามประเพณีและวัฒนธรรมที่ดี โดยสามารถรดน้ำได้โดยไม่ต้องสาด

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ จึงเร่งเข้าไปฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยใช้วิธีเชิงรุกไม่ต้องรอให้มาหาที่สถานบริการพยาบาล ซึ่งเวลานี้ฉีดวัคซีนไปจำนวนมากแล้ว จนมั่นใจว่าไม่ได้ทำอันตรายต่อร่างกาย ไม่ต้องมานั่งสังเกตอาการ

ทั้งนี้สิ่งที่ยังเป็นห่วงคือเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน พบว่าติดเชื้อจำนวนมาก จึงอยากฝากให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง งดพาเด็กเล็กไปโรงพยาบาล เพราะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหลายอย่าง ส่วนคนทั่วไปยังต้องเฝ้าระวังตัวเองให้ดี และขอย้ำให้ฉีดวัคซีนป้องดควิด-19 เพราะจะป้องกันการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้หากติดเชื้อ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการประเมินยอดผู้ติดเชื้อ หลังเทศกาลสงกรานต์ จะพุ่งขึ้นเหมือนปี 2564 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องควบคุมในสิ่งที่ควรควบคุม ไม่ให้เจ็บป่วยหนัก และควบคุมไม่ให้เกิดการเสียชีวิต ขณะนี้แพทย์เสนอให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ไม่ใช่รัฐบาลเป็นผู้เสนอ

“รัฐบาลมีความกังวล แต่เมื่อแพทย์ให้คำอธิบายในเชิงหลักวิชาการรองรับไว้เราก็เชื่อตามนั้น เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม แม้จะมีผู้ติดเชื้อ แต่หากมียารักษาโรค และสถานพยาบาลรองรับ กรณีเกิดการเจ็บป่วยหนัก และถือว่าโควิด-19 เป็นโรคๆหนึ่ง ที่จะต้องกล้าก้าวข้ามตรงนี้ไป” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ยอมรับว่าการเดินทางของประชาชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่กระทรวงสาธารณสุข ยังเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่ฉีดให้ประชาชนไปแล้ว จะทำหน้าที่ของมันได้ เมื่อเกิดการติดเชื้อ ต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ค่อยแสดงอาการ บางคนสามารถรับประทานยารักษาตามอาการ และหายจากโรคเองได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว